เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่โรงเรียนศึกษานารี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มลูกศึกษานารี นัดหมายชุมนุมแบบเฟลชม๊อบ เพื่อแสดงออกทางประชาธิปไตยบริเวณสวนหย่อมหน้าโรงเรียน จากเดิมที่มีการนัดชุมนุมบริเวณสนามใหญ่ภายในโรงเรียน แต่ได้มีนำรถฉีดน้ำมาทำความสะอาด ทำให้นักเรียนไม่สามารถใช้พื้นที่ชุมนุมได้ จึงต้องย้ายมาที่ดังกล่าว ทั้งนี้กลุ่มนักเรียนได้มีการชูป้ายข้อความอาทิ “we want to Democracy, เอ๋ ไม่ต้องพูด,พักก่อน!!!!แม่อยากให้ลุงพักแล้วคะ, 6 ปีแล้วนะ ไหนอ่ะความสุข, อำนาจอธิปไตย เป็นของประชาชน, เป็นอนาคตของชาติ แต่ไม่มีสิทธิเลือก เป็นต้น พร้อมแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าดูสถานการณ์
แกนนำนักเรียนชั้นม.5 รายหนึ่งกล่าวปราศรัยว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้ พวกเรามากันเองโดยไม่มีผู้ใหญ่ชักจูงอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ตั้งแต่เรียนเรื่องประชาธิปไตยมา รัฐบาลประยุทธ์ ไม่มีคุณสมบัติข้อใดที่ตรงกับสิ่งที่เรียนเลย ร.ร.ศึกษานารี ไม่ได้แสดงออกเรื่องการเมืองครั้งแรก แต่เมื่อครั้งกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ก็มีการเข้าร่วมแสดงออกเชิญสัญลักษณ์บนอาคารเรียน จึงรู้สึกว่าครั้งนี้ก็น่าจะมีสิทธิแสดงออกเช่นเดียวกัน เชื่อว่าหลายคนรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม รัฐบาลนี้มาจากการทำรัฐประหาร การยุบพรรคอนาคตใหม่(อนค.) เป็นจุดพีค ทำให้ตัดสินใจออกมาเรียนร้องความเป็นธรรม ครอบครัวของตนเอง ก็เลือกอนค. แต่กลับถูกยุบโดยไม่สนใจเสียงประชาชน ทำให้สิทธิของเราดูไม่มีค่า ไม่ใช่เท่านั้น การบริหารงานประเทศ ยังไม่ดี เศรษฐกิจตกต่ำ
“อยากบอกว่า นักเรียนไม่ได้โง่ เราติดตามสถานการณ์ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ออกไป การชุมนุมครั้งนี้เห็นว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรเป็นรัฐบาลอีกต่อไป ทั้งด้วยวุฒิภาวะผู้นำที่บกพร่อง การบริหารบ้านเมืองที่ย่ำแย่ เศรษฐกิจตกต่ำ มีการตัดงบการศึกษา และยังบอกว่า ให้เลือกเรียนในสาขาที่ประเทศต้องการ ไม่ใช่สาขาที่ไม่มีงานทำ แสดงให้เห็นถึงความไม่เปิดกว้างทางการศึกษา เรายอมไม่ได้จึงมาชุมนุนกัน”ตัวแทนนักเรียนม.5 กล่าว
ตัวแทนนักเรียนชั้นม.4 กล่าวตอนหนึ่งว่า นายกฯ ร้องเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” อยากถามวา เวลาไม่นานคือเท่าไร หรือจนกว่าอำนาจประชาธิปไตยจะหมดไปจากมือของประชาชนแล้วแทรกด้วยอำนาจเผด็จการแทน รัฐบาลให้ความหวังลมๆ แล้งๆกับประชาชนตาดำๆ ด้วยคำสัญญา แต่กลับย่ำยีประชาชนจนแทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์ ทั้งที่รู้ว่าประชาชนไม่พอใจ แต่คุณกลับนิ่งไม่รับรู้และคอยปิดบังเรื่องต่างๆ ถ้าเราสามารถเป็นนายกฯได้ด้วยการเป็นทหาร และจะตั้งใจเรียนไปเพื่ออะไร การที่มารวมตัววันนี้ไม่ใช่ว่าเราชังชาติ แต่ต้องการประชาธิปไตยคืน
ขณะที่ตัวแทนนักเรียนชั้นม.3 กล่าวว่า ตั้งใจออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าเราไม่ออกมาตอนนี้ อนาคตคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เหตุที่ตัดสินใจออกมาเคลื่อนไหวเพราะรัฐบาลบริหารงานหลายอย่างบกพร่อง ทั้งเรื่องการจัดการปัญหาระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ความไม่เป็นธรรมในการยุบพรรคอนค. ซึ่งถือเป็นแรงขับสำคัญให้ตัดสินใจออกมาสู้ เพราะรู้สึกว่า ตอนนี้เราไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า เป็นประชาธิปไตย ไม่อยากให้เรื่องประชาธิปไตยมีแค่ตำราเรียน แต่อยากเห็นผู้ใหญ่ แสดงความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
จากนั้น เวลา 11.10 น.นักเรียนได้ร้องเพลง Do You Hear the People Sing ซึ่งเป็นเพลงที่แสดงออกถึงความไม่พอใจในรัฐบาล เพลงนี้เคยถูกใช้ในการรณรงค์ทางการเมืองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนสลายการชุมนุม โดยระบุว่า หากไม่มีความเปลี่ยนแปลง อาจมีการนัดรวมตัวอีกครั้งและครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวกันหลายโรงเรียน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
