นายอดิศร สินประสงค์ นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สวทอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าวิทยาลัยอาชีวเอกชนดำเนินการเปิดสอนนอกที่ตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สวทอ.ขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ที่เข้มงวดดูแลคุณภาพมาตรฐานของผู้เรียนที่จะจบหลักสูตรอาชีวศึกษา ทั้งนี้จะมีนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการเรียนกับวิทยาลัยอาชีวเอกชนนอกที่ตั้งอยู่ ทาง สวทอ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเยียวยา โดยใช้วิธีเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ให้นักเรียนนักศึกษากลุ่มนี้ได้มีที่เรียนในวิทยาลัยอาชีวเอกชนที่มีคุณภาพ ซึ่งนักเรียนนักศึกษาสามารถเดินทางเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทันที ดังนั้นภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2563 นักเรียนนักศึกษาเหล่านี้มีที่เรียนต่อแน่นอน
“ส่วนวิทยาลัยที่เปิดนอกที่ตั้งนั้น จะมีโทษตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 เนื่องจากอาชีวะเอกชน ไม่มีพ.ร.บ.เป็นของตนเอง ซึ่งทางสอศ.และ สำนักบริหารอาชีวศึกษาเอกชน (สอช.) ที่รับหน้าที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ ได้มีมาตรการสั่งให้วิทยาลัยเอกชนที่เปิดนอกที่ตั้ง ระงับการรับนักเรียนนักศึกษา และระงับการจำหน่ายใบระเบียนแสดงผลการเรียน หรือใบ รบ.ให้กับวิทยาลัยเหล่านี้ ถือเป็นการปิดวิทยาลัยเหล่านี้ไปโดยปริยาย”นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ข้อกังวลของ สวทอ.ในปัจจุบันคือ ครูอาชีวะเอกชนที่ไม่ได้รับการเพิ่มเงินเดือนเป็นระยะเวลา 5 ปี มาแล้ว อยากให้รัฐดูแลครูที่สอนเยาวชนของชาติ โดยทบทวนเงินอุดหนุนที่เป็นเงินเดือนครูในส่วนของวิทยาลัยอาชีวเอกชนด้วย ปัจจุบันวิทยาลัยเอกชนพบปัญหาครูไปสอบบรรจุเข้ารับราชการเพื่อความเจริญก้าวหน้า ทำให้ครูอาชีวะเอกชนไหลเวียนไปยังโรงเรียนสามัญ และโรงเรียนเอกชนของรัฐมากขึ้น เพราะครูเหล่านี้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่ ศธ.กำหนดให้ แต่ในส่วนของวิทยาลัยอาชีวเอกชนยังขาดการอุดหนุนช่วยเหลือในส่วนนี้อยู่ เมื่อครูได้รับการเรียกบรรจุในสถานศึกษาของรัฐ ทำให้วิทยาลัยต้องหาครูมาทดแทนภายในเวลาเพียง 15 วัน ซึ่งไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว ซึ่งทาง สวทอ.ทราบว่าภาครัฐเองก็พยายามช่วยเหลือเช่นกัน แต่การเรียกบรรจุครูในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนไม่กี่วัน ยังคงเป็นปัญหาที่วิทยาลัยอาชีวเอกชนต้องหาทางแก้ไขต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
