เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสาธิต ปิติวรา นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยบูรพา (มบ.) และกรรมการสภา มบ. พร้อมคณาจารย์ พนักงานมหาวิทยาลัย นิสิต มบ. และศิษย์เก่าประมาณ 30 คน เข้าพบ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แก้ปัญหาธรรมาภิบาลและขอให้ใช้ ม.44 ดำเนินการกับรักษาการแทนอธิการบดี มบ. รักษาการแทนรองอธิการบดีทุกคน และรักษาการสภา มบ.เสียงข้างมากที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและไร้ธรรมาภิบาล ทั้งนี้ นายสาธิตกล่าวภายหลังเข้าพบ พล.อ.ดาว์พงษ์ ว่า ตนได้ยื่นข้อมูลปัญหาธรรมาภิบาลของ นพ.สมพล พงศ์ไทย รักษาการแทนอธิการบดี มบ. รักษาการแทนรองอธิการบดี และสภา มบ.เสียงข้างมาก ซึ่งปฏิบัติงานอย่างไร้ธรรมาภิบาล ส่งผลกระทบต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยและทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง จนเสียหายต่อระบบการศึกษา อีกทั้งตลอดเวลาที่ นพ.สมพลดำรงตำแหน่งรักษาการแทนอธิการบดี ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 พบว่าใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทางไปต่างประเทศถึง 39 ครั้ง รวม 171 วัน ล่าสุดวันที่ 11-13 กรกฎาคม ก็มีกำหนดเดินทางไปประเทศกัมพูชาด้วย
นายสัมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มบ.ในฐานะประธานเครือข่ายธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา กล่าวว่า เท่าที่ดูรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ทราบปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาอย่างดี และพยายามหาทางแก้ไข โดยเท่าที่ฟัง ม.44 ที่ใช้ ไม่ใช่การสั่งโดยตรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการ ศธ. แต่เป็นการให้อำนาจสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เข้าไปกำกับดูแล ซึ่งจุดที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะกรรมการ กกอ.หลายคน ก็เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยหลายแห่ง ดังนั้นต้องกำกับดูแลไม่ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องไว้ แต่พิจารณาดำเนินการโดยจะต้องตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าพบว่าข้อมูลที่กลุ่มอาจารย์ และศิษย์เก่าระบุมาเป็นความจริง จะดำเนินการเท่าที่มีอำนาจ โดยให้โอกาสทุกฝ่ายได้ชี้แจงด้วย ทั้งนี้หากจะใช้ ม.44 ก็จะใช้อย่างเป็นธรรม จะไม่ไล่ทุบใคร ขอให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ขอใช้ ม.44 เพื่อแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัยให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแล้ว ซึ่งตนก็กำลังรอว่าจะมีการออกคำสั่งกลับมาเมื่อไร
