นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้สั่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท จังหวัดชัยนาท เปิดสอนนอกสถานที่ตั้ง โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ตรวจสอบ ก็ประกาศปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้ง บางเลน จ.นครปฐม, ศูนย์บ้านไร่ จ.ราชบุรี, ศูนย์กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และอีกหลายๆ ศูนย์ ส่งผลให้มีนักศึกษาได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 คนนั้น ล่าสุดทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ขอปิดกิจการแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนมาตรการเยียวยานักเรียนนักศึกษาที่เรียนในสถานที่ตั้งอย่างถูกต้อง ซึ่งมีอยู่หลายร้อยคนนั้น สอศ.จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการถ่ายโอนหน่วยกิตไปเรียนในวิทยาลัยที่เด็กเลือก ซึ่งในจังหวัดชัยนาทมีทั้งวิทยาลัยรัฐและวิทยาลัยเอกชนหลายแห่ง ที่พร้อมจะรับเด็กเข้าเรียนต่อเนื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนนักเรียนนักศึกษาที่เรียนนอกสถานที่ตั้งนั้น สอศ. คงไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด เพราะถือว่าเข้าเรียนอย่างไม่ถูกต้อง และหากใครอยากได้ค่าเทอมที่เสียไปแล้ว ก็ต้องไปฟ้องร้องตามกฎหมาย ซึ่งก็มีผู้เรียนไปแจ้งความเรียกค่าเสียหายกับวิทยาลัยแล้วหลายราย
“ขณะนี้วิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทยังเปิดการเรียนการสอนอยู่ แม้จะยื่นเรื่องขอปิดกิจการมาให้สอศ.พิจารณาแล้วก็ตาม เพราะการอนุญาตให้ปิดวิทยาลัยใด ต้องทำอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ปิดไปโดยที่ไม่มีหลักฐานและเหตุผลที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในข้อกฎหมายในอนาคต รวมถึงเตรียมพร้อมเยียวยานักเรียนนักศึกษาไม่ให้เสียสิทธิ ส่วนวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เปิดสอนนอกสถานที่ตั้งและสอศ. ตรวจสอบพบนั้น ก็สั่งปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้งหมดแล้ว เพราะตามกฎหมายสอศ. ห้ามเปิดสอนนอกที่ตั้งอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้วิทยาลัยที่แอบเปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้งส่วนใหญ่ เป็นวิทยาลัยเอกชน ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถเปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้งได้ หากพบวิทยาลัยใดดำเนินการ ถือว่าผิดกฎหมาย อยากกำชับนักเรียนที่กำลังจะสมัครเข้าเรียน ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดว่าเปิดสอนอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ หากไม่แน่ใจสามารถสอบถามมาได้ที่สอศ.โดยตรง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต” เลขาธิการกอศ. กล่าว
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบวิทยาลัยที่ไปแอบเปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้งนั้น มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยทุกเดือนแต่ละจังหวัดจะรายงานตัวเลขจำนวนเด็กมาที่สอศ. ซึ่งการรายงานต้องมีการตรวจสอบข้อมูลว่า เด็กอยู่ที่ไหน อย่างไร เพราะสอศ. ไม่ได้โอนเงินรายหัวให้วิทยาลัยโดยอัตโนมัติ ต้องมีการตรวจสอบ และให้อาชีวศึกษาจังหวัด (อศจ.) รับรองข้อมูลก่อนที่สอศ.จะโอนเงินลงไป ถ้าผิดสังเกตก็จะสั่งการให้ตรวจสอบหารายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ตนขอกำชับวิทยาลัยเอกชนทุกแห่งห้ามเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งโดยเด็ดขาด เพราะเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกกฎหมาย
“ผมเชื่อว่าทุกวิทยาลัยรู้ว่าไม่สามารถเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งได้ ทุกวิทยาลัยไม่มีสิทธิทำอยู่แล้ว หากใครทำแสดงว่ามีเจตนาที่ไม่ชอบมาพากล มีความผิดอย่างแน่นอน ส่วนวิทยาลัยในสังกัดรัฐนั้น อนุญาตให้มีการเปิดสอนเป็นศูนย์การเรียนต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่สอศ.ก็มีการควบคุม ดูแล เชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำผิด เพราะถึงทำก็ไม่ได้อะไร จะไปเก็บเงินก็ไม่ได้ เพราะระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ของรัฐให้เรียนฟรีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของวิทยาลัยเอกชน มีการเก็บค่าเทอมได้ ก็อาจมีการไปซูเอี๋ยกันในเรื่องที่คาดไม่ถึง ซึ่งสอศ. เองพยายามตรวจสอบและหากพบก็จะดำเนินการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด” นายณรงค์กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
