ม.มหิดล เตือนเวิรก์ฟอร์มโฮม สร้าง ‘วิถีชีวิตเนือยนิ่ง’ เสี่ยงเบาหวาน-ติดเชื้อโควิด-19 ง่าย

ม.มหิดล เตือนเวิรก์ฟอร์มโฮม สร้าง ‘วิถีชีวิตเนือยนิ่ง’ เสี่ยงเบาหวาน-ติดเชื้อโควิด-19 ง่าย

วิถีชีวิตเนือยนิ่ง – ผศ.นพ.วีรชัย ศรีวณิชชากร อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ และศูนย์เบาหวาน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบันไทยมีผู้ป่วยเบาหวานถึง 4.8 ล้านคน ซึ่งกำลังเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 และจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น โดยรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เมื่อเร็วๆ นี้ เปิดเผยยอดผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต พบมีโรคประจำตัวเบาหวานร่วมมากที่สุดนั้น สาเหตุที่ผู้ป่วยเบาหวานถึงเป็นกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เนื่องจากเป็นโรคที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทำหน้าที่จัดการเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย โดยพบว่าผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน โดยเฉพาะผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ จะมีภูมิคุ้มกันร่างกายในระดับต่ำด้วย จึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายกว่าปกติ

ผศ.นพ.วีรชัยกล่าวอีกว่า จากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่กำหนดให้ทุกองค์กรต้องปรับระบบการทำงานของพนักงาน จากงานสำนักงาน ให้ไปทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไปนั้น รู้สึกห่วงใยถึงผู้ที่ใช้ชีวิตแบบเนือยนิ่ง รับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ และขาดการออกกำลังกาย เพราะจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และง่ายต่อการติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด

“อย่างที่ทราบกันดีว่า คำว่าวิถีชีวิตเนือยนิ่ง ก็คือการขาดกิจกรรมทางกาย และรับประทานอาหารไม่เหมาะสม ช่วง Work From Home ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตกันแต่ในบ้าน หากเลือกรับประทานแต่อาหารสำเร็จรูป หรือสั่งแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดมารับประทาน และขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการมีน้ำตาลในเลือดสูง และโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้มากขึ้น เนื่องจากร่างกายของเราต่อสู้กับเชื้อได้น้อยลง” ผศ.นพ.วีรชัย กล่าว

ผศ.นพ.วีรชัยกล่าวต่อว่า ในกรณีที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว แนะนำให้ผู้ป่วยเอาใจใส่พิเศษกับการควบคุมระดับน้ำตาล และไม่ลืมที่จะตรวจสอบจำนวนยาเบาหวาน หรืออินซูลิน รวมทั้ง ยาร่วมให้เพียงพอ และหากอาศัยเพียงลำพังควรแจ้งผู้ที่อยู่รอบข้างให้ทราบด้วยว่า ตัวเองเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน เผื่อเกิดเหตุกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ แม้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าปกติ แต่หากดูแลตัวเองดี เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมต่อโรค ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ขาดการออกกำลังกายควบคุมระดับน้ำตาล ไม่ลืมรับประทานยา-ฉีดอินซูลินตามแพทย์สั่งตลอดจนเฝ้าระวังอาการตัวเอง เมื่อมีอะไรผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ก็จะสามารถผ่านวิกฤตในช่วงนี้ไปได้ในที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image