กมว.พักใช้ใบอนุญาตฯครูข่มขืนหลาน เล็งขึ้นแบล๊กลิสต์ในระบบไม่ให้เป็นครูได้อีก
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กมว. ว่าที่ประชุมหารือกรณีครูนายชัย (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี กระทำชำเราหลานตัวเองนานถึง 3 ปี โดยครูรายดังกล่าวไม่ใช่ข้าราชการ เป็นพนักงานราชการ ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงมีมติไล่ออก โดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมเพื่อดำเนินคดี และคัดค้านการประกันตัวนั้น
ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการทางจรรยาบรรณวิชาชีพ และจะถูกแบล๊กลิสต์ในระบบ จะไม่ได้รับใบอนุญาตฯตลอดชีวิต แม้ระเบียบจะเขียนไว้ว่า เมื่อถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯเกิน 5 ปี สามารถขอใบอนุญาตฯ ใหม่ได้ แต่กรณีกระทำชำเราเด็ก คุรุสภาจะขึ้นบัญชีดำไว้เลยว่า จะไม่ออกใบอนุญาตฯให้ เพื่อไม่ให้สามารถกลับมาเป็นครูได้อีก
นายเอกชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณากรณีครูอัตราจ้าง โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ล่อลวง ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาว อายุ 12 ปี ปัจจุบันเรียนชั้น ป.6 ไปกระทำอนาจารในโรงเรียน ทั้งยังมีพฤติกรรมแชตเฟซบุ๊กกับลูกสาวในลักษณะลามกชู้สาว อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น จากการตรวจสอบพบว่าครูรายดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตฯ และเท่าที่ทราบโรงเรียนได้ไล่ออกจากงานแล้ว ส่วนบุคคลดังกล่าวจะเข้าไปทำหน้าที่ครูด้วยวิธีการใดนั้น ทาง กมว.ไม่ทราบ ดังนั้น เรื่องนี้ทาง กมว.คงไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้
นายเอกชัยกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีอนุมัติออกใบอนุญาตฯ กรณีผู้ที่จบหลักสูตรครู 4 ปี ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่เข้าเรียนก่อนที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2546 จะมีผลบังคับใช้ ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูโดยอัตโนมัติ และต้องขอรับใบอนุญาตฯภายใน 3 ปี แต่มีกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าช่วงนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตฯ จึงไม่ได้มาขอรับใบอนุญาตฯภายในเวลาที่กำหนดนั้น แต่มีหลายรายมาขอรับใบอนุญาตฯในช่วงนี้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงขอให้เร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ครูกลุ่มนี้มีสิทธิขอรับใบอนุญาตฯได้
