รองเลขาฯ สกสค.ย้ำไม่ยุบองค์การค้า หลังเหลือพนักงาน 74 คน ชี้ต้องปรับลดค่าใช้จ่ายเหตุมีหนี้กว่า 6.7 พันล้านบาท
นายธนพร สมศรี รองเลาขาธิการ สกสค. กล่าวถึงกรณีที่องค์การค้าเลิกจ้างพนักงาน 961 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมโดยจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ว่า การเลิกงานครั้งนี้ ได้ทำการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมายแล้ว สกสค.ไม่ได้ให้พนักงานหยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 กรกฎาคม แต่เป็นวันที่ 1 สิงหาคม เหตุผลที่เลิกจ้างมาจากการพิจารณาว่าองค์การค้าฯ ไม่ควรจะมีการจ้างพนักงานจำนวนมากในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะมีพนักงาน 1,035 คน ซึ่งก่อนหน้านี้การมีจำนวนพนักงานมากกว่า 1,000 คน ก็ถูกต้องแล้วเพราะธุรกิจดำเนินไปด้วยดี เป็นหลักของ ศธ. และเป็นองค์กรที่ผูกการพิมพ์ตำราเรียนเพียงรายเดียว แต่หลังจากที่กฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาออกมาใหม่ในปี พ.ศ. 2546 ได้กำหนดไว้ว่าไม่อนุญาตให้ผูกขาดการพิมพ์หนังสือเรียน ฉะนั้นภาคเอกชนก็สามารถเข้ามาแข่งขันกับองค์การค้าฯ ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น องค์การค้าฯ ไม่สามารถใช้จำนวนพนักงานที่กว่า 1,000 คน เหมือนในอดีตต่อไปแล้ว การจ้างพนักงานจำนวนมากเป็นเหตุให้องค์การค้าฯ ขาดทุนสะสม และมีหนี้กว่า 6,700 ล้านบาท จึงเป็นเหตุผลที่องค์การค้าฯ จำเป็นต้องปรับค่าใช้จ่ายขององค์กรให้สอดคล้องกับธุรกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้
“เราไม่สามารถปิดองค์การค้าฯ ได้ เพราะองค์การค้าฯ เป็นหน่วยงานในกำกับของ ศธ. แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงองค์การค้าฯ ให้เหมาะสมกับยุคสมัยก็อาจจะไปต่อได้ยาก เพราะวันนี้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ถูกดิสรัปชันไปแล้ว มีคำถามว่าทำไมถึงปรับคนออกให้ช่วงที่มีวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะถ้าไม่ปรับคนออกในเวลานี้ องค์การค้าฯ อาจจะล้มทั้งหมด แต่ยืนยันว่าการเลิกจ้างนี้องค์การค้าฯ จ่ายเงินชดเชย และเงินบำเหน็จให้ครบถ้วนทุกคน ซึ่งบางคนจะได้รับต่ำสุดคือ 5 แสนบาท สูงสุดได้รับถึง 3-4 ล้านบาท ตามอายุงาน ซึ่งจะใช้เงินที่มีอยู่ในเครือข่ายของ สกสค. ใช้จ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานองค์การค้าฯ การกระทำเช่นนี้ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะองค์การค้าฯ เป็นหน่วยงานในกำกับของ สกสค. เวลามีปัญหาอะไร สกสค.จะเป็นผู้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ถ้าวันนี้ไม่ลงมือทำอะไร ต่อไปองค์การค้าฯ อาจจะมีหนี้พุ่งถึงหลักหมื่นล้านบาท” นายธนพร กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานองค์การค้ามีจำนวน 1,035 คน เลิกจ้าง 961 คน เหลือ 74 คน
