โผล่อีก!เอกชนรับน.ศ.เกินโควต้า กมว.รับถอด’ตั๋ว’ย้อนหลังยาก เล็งถกฟันม.ทำผิดซ้ำซาก7ส.ค.
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ในการประชุม กมว. วันที่ 7 สิงหาคมนี้ ที่ประชุมจะหารือถึงปัญหาการรับนักศึกษาเกินที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)อนุมัติ เนื่องจากตนพบกรณีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง รับนักศึกษาเข้าเรียนในหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา กว่า 1,000 คน ทั้งที่ สกอ.อนุมัติให้รับนักศึกษา 100 คนเท่านั้น ถือเป็นกรณีที่สองแล้วนับตั้งแต่ที่ตนเข้ามาทำงานในฐานะประธาน กมว. โดยกรณีแรก คือมีคนร้องเรียน กมว.ว่าเรียนจบหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลับเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาได้ ซึ่งจากการตรวจสอบมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนหลักสูตรดังกล่าวในปีการศึกษา 2557-2558 ปีละ 100 คน แต่รับนักศึกษามากกว่าจำนวนซึ่งแต่ละปีรับนักศึกษาเข้าเรียนมากกว่า 1,000 คน
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่มีมานาน โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยเอกชน และปัญหาที่ตามมาคือผู้เรียนจะไปฟ้องร้องเอาผิดกับมหาวิทยาลัยเพื่อให้ชดเชยและเยียวยา ทั้งนี้ ตนพบว่ามีผู้ที่จบการศึกษาบางส่วนได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาไปแล้ว แต่เมื่อ กมว.ได้รับข้อมูลว่ารายชื่อที่มหาวิทยาลัยส่งมานั้น ไม่น่าเชื่อถือ จึงระงับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพออกไปก่อน ซึ่งจะมีบางส่วนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไปก่อนหน้านี้ และได้บรรจุเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารแล้ว ถ้า กมว.จะไปเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะมีปัญหาตามมาแน่นอน ซึ่ง กมว.จะประชุมร่วมกันหาทางออกเรื่องนี้อีกครั้งว่าจะช่วยเหลือเยียวยาผู้เรียนไปแล้วอย่างไรบ้าง
“กมว.มองว่าไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ต้องมีทางเยียวยาแก้ปัญหา พร้อมกับให้มหาวิทยาลัยร่วมรับผิดชอบ ทั้งนี้ที่ประชุมจะหารือถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาต่อไปว่าจะมีอะไรบ้าง ซึ่งมีหลักคือต้องให้มหาวิทยาลัยมีความรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่แค่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาต้องมานั่งแก้ไขปัญหาให้ ทั้งนี้ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากคุรุสภาด้วย ที่ไม่มีช่องทางให้ผู้เรียนมาตรวจสอบข้อมูล เช่น ให้ข้อมูลแต่ละมหาวิทยาลัยว่าในหลักสูตรต่างๆ ได้รับการอนุมัติผลิตจำนวนเท่าใด และมหาวิทยาลัยไหนบ้างอยู่ในกระบวนการพิจารณา เป็นต้น” นายเอกชัย กล่าว
