มธบ.พร้อมเปิดเทอมเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ น.ศ.อยากพบปะเพื่อน-แลกเปลี่ยนความเห็นอาจารย์

มธบ.พร้อมเปิดเทอมเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ น.ศ.อยากพบปะเพื่อน-แลกเปลี่ยนความเห็นอาจารย์

เปิดเทอม – ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ถึงแม้ว่าจะคลี่คลายลง แต่ยังคงส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคการศึกษาจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของรัฐบาล และเพื่อยับยั้งการระบาดของโรค มธบ.ได้ปรับการเรียนการสอนเป็นแบบนิวนอร์มอล โดยลดเวลาเรียนในห้องเรียน และเพิ่มเวลาเรียนนอกห้องเรียนให้มากขึ้น โดยส่งเสริมให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ จากประสบการณ์จริง เช่น การค้นคว้า ทำงานกลุ่ม โปรเจกต์ หรือการนำเสนอผลงานธีสิสออนไลน์ เป็นต้น เพื่อลดความแออัดในการใช้ห้องเรียน ห้องเรียนก็จัดให้มี Social distancing จากเดิมห้องเรียนละ 50 คน เหลือเพียง 25 คน ทั้งยังมีระบบคิวอาร์โค้ดเพื่อเช็คอินติดตามสถานะการเข้า-ออก ห้องเรียน อาคารเรียน ตามพื้นที่ต่างๆ

“นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยจัดห้องเรียนแบบ broadcast ที่สามารถเรียนแบบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ หรือบางวิชานักศึกษาสามารถดูการสอนย้อนหลังได้ รวมถึง นักศึกษาสามารถดูคลิปวิดีโอที่อาจารย์สรุปเนื้อหาการสอนเพื่อให้นักศึกษาสามารถทบทวนเนื้อหาบทเรียนได้อย่างแม่นยำ” ผศ.ดร.พัทธนันท์ กล่าว

ผศ.ดร.พัทธนันท์กล่าวอีกว่า แม้ว่าการเรียนออนไลน์จะช่วยลดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ว่านักศึกษายังคงต้องการการเรียนแบบ Social Life คือต้องการสังคม ได้เจอเพื่อน พูดคุย หรือทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ถ้าเป็นการเรียนออนไลน์ที่อยู่กับบ้านอาจจะไม่ตอบโจทย์ นักศึกษาปริญญาตรีจะมีเวลาว่าง ซึ่งอยากใช้เวลาว่างพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับอาจารย์ มาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ดังนั้น มธบ.จึงต้องมีสภาพแวดล้อม มีสถานที่ที่อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เป็นพื้นที่ Co-working Space ให้กับนักศึกษาได้ทำกิจกรรม เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงาน คุยงาน นั่งเล่น จิบกาแฟ ออกกำลังกาย ในอนาคตเราอาจจะทำห้องสำหรับดูหนังให้กับนักศึกษา ด้วยสภาพแวดล้อมที่สบายผ่อนคลายเหล่านี้ จะช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา

“จะเห็นได้ว่าด้วยภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น คนที่ไม่มีทักษะอาชีพจะอยู่ลำบาก และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป มธบ.จึงมีหลักสูตร GenEd ที่เน้น 4 Module สำคัญ คือ โมดูลแรก เป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์เพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึง กระบวนการต่างๆ ที่เป็นลักษณะตอบโจทย์เศรษฐกิจยุคใหม่ โมดูลที่สอง เรื่องนวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ยุคใหม่ นักศึกษาจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวันที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ส่วนโมดูลที่สาม เป็นเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ นักศึกษาจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีอย่างง่ายในการนำมาวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ได้ ส่วนโมดูลสุดท้าย เป็นทักษะการเป็นผู้ประกอบการสมัยใหม่ในยุคดิจิทัล นักศึกษาจะมีความชาญฉลาดในการเลือกใช้เทคโนโลยี และสามารถนำมาพัฒนากระบวนการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม” ผศ.ดร.พัทธนันท์ กล่าว

Advertisement

ผศ.ดร.พัทธนันท์กล่าวต่อว่า หลักสูตรเหล่านี้จะมุ่งเน้นให้นักศึกษาปรับตัวได้แม้ในภาวะวิกฤต ให้นักศึกษารู้จักปรับตัว เรียนรู้การใช้ชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่รู้ทฤษฎีในห้องเหมือนเดิม แต่จะต้องเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น เรียนวิชาที่เป็นประโยชน์ และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน นักศึกษาหนึ่งคนจะต้องมีความรู้ และทักษะรอบด้าน ที่สามารถเอาตัวรอดได้ บางคนอาจจะนำความรู้ไปต่อยอดในธุรกิจของตนเอง หรือบางคนอาจนำความรู้ไปต่อยอดพัฒนาทักษะวิชาชีพของตนเองได้

ผศ.ดร.พัทธนันท์กล่าวอีกว่า นอกจากเน้นทักษะที่สำคัญ สกิลด้านภาษาเป็นอีกเรื่องที่จำเป็น ที่ต้องการให้นักศึกษามีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษในระดับที่ดี ดังนั้น มธบ.จึงเป็นศูนย์ทดสอบ และศูนย์ฝึกอบรมของ Pearson ซึ่งเป็นหลักสูตรการวัดผลทางด้านภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยนักศึกษาทุกคนจะได้เรียน และฝึกฝนการใช้ทักษะภาษาอังกฤษ ผ่านแอพพลิเคชั่นที่เป็นเจ้าของภาษา ไม่ว่าจะเป็นการพูด อ่าน สนทนากับเจ้าของภาษา เรียนได้ anywhere anytime มีบททดสอบ หากนักศึกษาผ่านบททดสอบครบถ้วนตามหลักสูตรแล้ว มธบ.และ Pearson จะออกใบ Certificate เพื่อรับรองว่านักศึกษาผ่านการฝึกอบรมทักษะภาษาอังกฤษ โดยจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2563

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image