นวัตกรรม CUD Thermal Scan ระบบสแกนเข้าออก ร.ร.อัจฉริยะ
สาธิตจุฬาฯ – จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของภาครัฐอย่างเข้มงวด โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในสถานศึกษาที่เตรียมความพร้อมด้านมาตรการความปลอดภัยระดับสูง รองรับการเปิดภาคการศึกษาใหม่ โดยได้นำนวัตกรรมทันสมัย “CUD Thermal Scan” ระบบสแกนคนเข้าออกโรงเรียนอัจฉริยะ เข้ามาติดตั้งที่ประตูอัตโนมัติบริเวณทางเข้าออกทุกประตูของโรงเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยภายในโรงเรียนได้อย่างสมบูรณ์
ระบบสแกนคนเข้าออกโรงเรียนอัจฉริยะ เป็นระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนใบหน้า และสแกนอุณหภูมิร่างกายของทุกคนที่เข้ามาในโรงเรียน ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึง คณาจารย์ และบุคลากร นวัตกรรมนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ซึ่งปัจจุบัน นายกิตติ อภิชนบัญชา เป็นนายกสมาคมฯ นำมาติดตั้งที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม 12 เครื่อง
คุณสมบัติของเครื่องสแกนใบหน้า จะใช้เวลาประมวลผลอย่างรวดเร็ว เครื่องสแกนจะวัดอุณหภูมิร่างกายเฉพาะขาเข้า ในการสแกนใบหน้า ระบบจะวัดองศาของตา จมูก และคิ้ว เป็นหลักในการให้ผ่านเข้าไปในโรงเรียน หากอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือไม่สวมหน้ากากอนามัย ประตูกั้นจะไม่เปิดให้เข้า หรือออกจากโรงเรียน
เครื่องสแกนใบหน้าได้ผ่านการทดสอบแล้วว่า จะสแกนเฉพาะใบหน้าจริงเท่านั้น ผู้ที่นำภาพถ่าย หรือภาพเคลื่อนไหวมาสแกนที่เครื่อง จะไม่สามารถปลดล็อกระบบประตูกั้นอัตโนมัติได้ รวมถึง การแยกใบหน้านักเรียนที่เป็นแฝดได้ด้วย โดยขาเข้าโรงเรียน นักเรียนจะยืนห่างจากเครื่องสแกน 30-50 เซนติเมตร เพื่อให้ประชิดหน้าจอ เนื่องจากจะต้องสแกนอุณหภูมิร่างกาย ส่วนขาออกอยู่ที่ประมาณ 3-5 เมตร เมื่อผ่านการสแกนแล้ว ประตูจะค่อยๆ เปิด และปิด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนผู้ใช้งาน
ขั้นตอนการสแกนคนเข้าออกโรงเรียน กรณีนักเรียนกลับบ้านได้เอง นักเรียนสามารถสแกนใบหน้าแล้วเดินออกจากโรงเรียนได้ตามปกติ กรณีผู้ปกครองมารับ นักเรียน และผู้ปกครองที่มีข้อมูลอยู่ในระบบ จะต้องมาที่เครื่องสแกนใบหน้าพร้อมกัน เริ่มจากให้นักเรียนสแกนใบหน้า ตามด้วยผู้ปกครอง เพื่อให้ประตูเปิดออก นักเรียนจึงออกนอกโรงเรียนได้ ส่วนผู้ปกครองถ้าจะออกนอกโรงเรียนด้วย จะต้องสแกนใบหน้าอีกครั้ง สำหรับบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาติดต่องานในโรงเรียน จะต้องผ่านการลงทะเบียนในระบบล่วงหน้าผ่านสัญญาณเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และต้องแนบภาพใบหน้าของตนแบบถ่ายสด และกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน
“เครื่อง Thermal Scan ที่ใช้ แตกต่างจากทั่วไปที่วัดอุณหภูมิได้อย่างเดียว การปิดเปิดประตู อาจจะต้องใช้คีย์การ์ดเปิดอีกที แต่ของเราเป็นระบบไร้การสัมผัส แสดงชื่อ และข้อมูลของคนที่เข้า-ออก และบันทึกเก็บไว้ในฐานข้อมูลของโรงเรียน หากไม่มีอยู่ในฐานข้อมูล เครื่องจะไม่อนุญาตให้เข้า เป็นการคัดกรองคนที่จะเข้ามาในโรงเรียนแบบ 100% ถือเป็นโรงเรียนแรกในประเทศที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องของการสแกนเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 แต่ยังช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรีย นและบุคลากรด้วย” นายกิตติ กล่าว
ผศ.ทินกร บัวพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม กล่าวว่า ระบบสแกนคนเข้าออกโรงเรียนอัจฉริยะ เป็นหนึ่งในมาตรการของโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ โรงเรียนยังมีมาตรการอื่นๆ อาทิ จำกัดจำนวนผู้ปกครองเข้ามารับ-ส่งนักเรียนภายในโรงเรียน นักเรียน 1 คน / ผู้ปกครอง 1 ท่าน ทุกคนที่เข้ามาในโรงเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัย ให้บุคลากรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน และล้างมือบ่อยครั้ง ทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะสม่ำเสมอ ติดตาม และรายงานสาเหตุการลาหยุดของนักเรียนรายวัน เป็นต้น
“โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม มีมาตรการคัดกรองเพื่อป้องกันสำหรับนักเรียน าได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ปกครองฯ และบริษัทเอกชนมาเสริมมาตรการ โดยนำเทคโนโลยีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิผสมผสานกับเครื่องตรวจวัดใบหน้า AI อัจฉริยะ เพื่อทำเป็นสถิติด้านสุขภาพ และความปลอดภัยขั้นสูง โดยเริ่มทีละขั้น และทดลองกับนักเรียน เพื่อพัฒนาศักยภาพของเครื่องให้รับรองความต้องการในแต่ละด้าน ปรับพัฒนาระบบทางกายภาพให้รับรองสรีระของเด็กแต่ละวัย โดยใช้ได้จริง และมีประสิทธิภาพ” ผศ.ทินกร กล่าว
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนห่วงใยเรื่องของความเครียด และผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กๆ ซึ่งต้องปฏิบัติตนตามมาตรการการป้องกัน และต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา จึงริเริ่มจัดกิจกรรมเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดที่เรียกว่า “กิจกรรมดอกไม้บาน” สำหรับนักเรียนทุกระดับชั้น ช่วงเปลี่ยนคาบเรียน ครั้งละประมาณ 5 นาที
เพื่อให้เด็กๆ ได้ถอดหน้ากากอนามัยเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และยืดเส้นยืดสายในพื้นที่เปิด มีอากาศถ่ายเท โดยยังคงรักษาระยะห่างในการปฏิสัมพันธ์เช่นเดิม ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักเรียนอย่างดี
