เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำภาษีเจริญ นายสมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แถลงถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ คดีพิเศษ 12/2559 เกี่ยวกับรถยนต์โบราณยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา และกรณีที่พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ ร่วมกับพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ร่วมกันแถลงเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า เมื่อเร็วนี้ๆ ดีเอสไอประชุมร่วมกับอัยการ และได้แถลงพิจารณาความผิดกลุ่มผู้ครอบครองรถยนต์โบราณ ระบุว่า “รถยนต์โบราณมีการชำระภาษีสรรพสามิตไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ สำหรับผู้ครอบครองรถยนต์ที่เสียภาษีไม่ครบจะมีความผิดตามมาตรา 161(1) พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527” แต่ไม่พบว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ มีความผิดตามที่ระบุแต่ประการใด ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงของพ.ต.อ.ไพสิฐ และพ.ต.ท.กรวัชร์ ที่ร่วมกันแถลงก่อนหน้านี้ อ้างว่าผู้ครอบครองรถยนต์โบราณ กระทำความผิดกฎหมาย อาทิ แจ้งความเท็จ เสียภาษีไม่ครบถ้วน เป็นต้น
“ผมมองว่าการแถลงของบุคคลทั้ง 2 ต่อสื่อมวลชน กระทบสิทธิสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพราะทำให้สื่อมวลชนและประชาชนเชื่อว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ มีความผิดตามที่กล่าวหา ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย เกิดความวุ่นวายในคณะสงฆ์ และมีผลกระทบต่อการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชด้วย ทั้งที่ยังไม่มีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาส่งมายังผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ผมวิงวอนให้พ.ต.อ.ไพสิฐ ออกมาชี้แจงความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ ผมจะขอความเห็นชอบจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อทำหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” นายสมศักดิ์ กล่าว
