นักวิชาการห่วง เลิกสอบป.1 เปิดช่องร.ร.เรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ

นักวิชาการห่วง เลิกสอบป.1 เปิดช่องร.ร.เรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ

นักวิชาการห่วง เลิกสอบป.1 เปิดช่องร.ร.เรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ ผอ.ร.ร.ขนาดกลางชี้ไม่กระทบ หนุนเกณฑ์รับเหมาะสม
จากกรณีคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีมติเห็นชอบร่างนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2564 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2564 โดยกำหนดรับนักเรียนไม่เกิน 40 คนต่อห้อง และห้ามขยายห้องเรียนเด็ดขาด ส่วนการรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ห้ามใช้วิธีการสอบแข่งขัน ให้ใช้วิธีการสอบสัมภาษณ์แทน ซึ่งล่าสุดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกมาสนับสนุนหลักเกณฑ์ดังกล่าว และกำชับให้โรงเรียนปฏิบัติตาม ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา( สพท.)ห่วงกำหนดจำนวนรับเด็กป่วน โดยอยากให้สอบถามความต้องการโรงเรียนก่อน
เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายสมเกียรติ ผ่องจิต ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนวลนรดิศ กล่าวว่า โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ไม่ใช่โรงเรียนยอดนิยม จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์รับนักเรียน เพราะโดยปกติจำนวนนักเรียนต่อห้องของโรงเรียนอยู่ที่ 35-40 คนต่อห้อง ถือเป็นจำนวนที่ไม่มากไม่น้อย ส่วนจำนวนครูต่อนักเรียนนั้น ก็ไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาทางสพฐ.จะคำนวณจำนวนครูต่อนักเรียนมาให้อย่างเพียงพออยู่แล้ว
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โดยหลักการ เกณฑ์รับนักเรียนที่ออกมาครั้งนี้ ถือว่ามาถูกทาง โดยเฉพาะกรณีห้ามสอบเข้าป.1 ช่วยให้เด็กไม่ต้องไปกวดวิชา ปลดล็อกภาวะวิกฤตทางการศึกษาได้ระดับหนึ่ง แต่ติดอยู่ตรงประเด็นเรื่องการสัมภาษณ์ซึ่งให้ผู้ปกครองเข้าไปด้วย แต่ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ว่าจะเป็นการพูดคุยในทิศทางใด อาทิ เป็นการตกลงเรื่องการระดมทรัพยาการ ช่วยเหลือโรงเรียน หรือพูดคุยในเรื่องใด เพราะอาจเป็นการเปิดช่องให้บางโรงเรียน พูดคุยในเรื่องการจ่ายเงินเพื่อแลกที่นั่งเรียน หรือเงินแป๊ะเจี๊ยะ ดังนั้นจึงอยากให้มีการจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า วิธีแก้ไขปัญหา อยากให้ตั้งกรรมการสอบสัมภาษณ์ โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัวแทนนักเรียนเข้าร่วม เพื่อจะได้ช่วยตรวจสอบความโปร่งใส และให้การรับนักเรียนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง ที่สำคัญสพฐ. จะต้องพูดคุยกับกระทรวงที่มีสถานศึกษาในสังกัด เพื่อให้ปรับเกณฑ์รับเด็กไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความลักลั่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image