มข.ทุ่ม 4 พันล.ผุดศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศบนพื้นที่ รองรับประชาชนภาคอีสาน
ม.ขอนแก่น – ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศ ระหว่าง มข., บริษัท คริสเตียนี และนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทก่อสร้าง และการลงนามในสัญญาระหว่าง มข.กับบริษัท อรุณชัยเสรี คอนซัลติ้ง เอนจิเนียร์ส จำกัด ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง มี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข.เป็นผู้แทนในการลงนาม ว่า โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศนี้ เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ มข.ก่อสร้างบนพื้นที่ 32 ไร่ เป็นพื้นที่ของ มข. 8 ไร่ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานน้ำบาดาล เขต 4 ขอนแก่น 24 ไร่ ซึ่งได้คืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ เพื่ออนุญาตให้ มข.ใช้ก่อสร้าง โดยมีบริษัทสถาปนิก 110 จำกัด เป็นผู้ออกแบบ และบริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด ควบคุมโครงการ มีวงเงินในการก่อสร้างร่วม 4,000 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นอีก 120,000 ตารางเมตร
“โครงการนี้ยังสามารถเพิ่มการผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อีกปีละ 150 คน ขยายการสร้างงานวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์อีกจำนวนมาก นับเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง ภูมิภาคข้างเคียงอีกด้วย” ดร.ณรงค์ชัย กล่าว
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวว่า อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ ประกอบด้วย อาคารกลาง 4,300 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าครุภัณฑ์ 1,000 ล้านบาท มีบริษัท คริสเตียนีฯ เสนอราคาต่ำสุด ในราคาประมูล 3,900 ล้านบาท จึงเป็นผู้ชนะการประมูล มีพื้นที่บริการ 120,000 ตารางเมตร ทำให้ขยายบริการทางการแพทย์ มีเตียงผู้ป่วยในเพิ่มกว่า 622 เตียง มีห้องผ่าตัดเพิ่ม 25 ห้อง และห้อง ICU อีก 117 เตียง ซึ่งจำนวนห้องผ่าตัด และเตียงวิกฤต ยังขาดจำนวนมาก นอกจากนี้ ในโครงการยังไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนที่มาจากทางไกล ฐานะไม่ดีจากต่างจังหวัด จัดเรือนพักสำหรับญาติผู้ป่วย ที่เก็บเงินวันละ 5-10 บาท อีก 400 ยูนิต พร้อมอาคารจอดรถได้อีก 1,000 คัน มีระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี
รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวอีกว่า ด้านกองทุนอายุวัฒนะ ยังเปิดรับตลอดเวลาการให้บริจาค ถึงแม้มีวงเงินบริจาคไม่สูงก็รับ ขณะนี้ยังมีจำนวนผู้บริจาคไม่มากนัก การก่อสร้างในเฟส 1 ไม่มีปัญหาในเรื่องงบ เนื่องจากมีทุนสำรองอยู่กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งยังคงต้องเปิดรับบริจาคอีกต่อไป เพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศในเฟสที่ 2-3 จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมระดมทุนบริจาคต่อไป
“ศูนย์ฯ จะนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในด้านการแพทย์มากขึ้น โดยนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรค การตรวจทางพยาธิ การตรวจทางเอ็กซเรย์ การตรวจโรคบางอย่าง ให้ถูกต้อง แม่นยำ รวมทั้ง การใช้เอไอเป็นเครื่องมือในการติดตามผู้ป่วย และการเปลี่ยนแปลงของโรคให้ถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้ ยังจะใช้เอไอให้บริการทางการแพทย์ระยะไกล หรือ Telemedicine รวมทั้ง ในด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์จำพวกหุ่นยนต์มาช่วยเสริมในการให้บริการ ให้ดียิ่งขึ้น ถูกต้องแม่นยำ รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ KKU Health Care Innovation Center เพื่อดึงบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล รวมทั้ง ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมสารสนเทศ Com Science คณะวิชาต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ แม้แต่คณะสถาปัตยกรรม เพื่อออกแบบที่พักอาศัย ครอบคลุมไปถึงการดูแลคนไทยสูงอายุที่อายุยืน ว่าทำอย่างไรจึงจะสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ทั้งที่โรงพยาบาล และที่บ้าน ให้ปลอดภัยได้อย่างไร” รศ.นพ.ชาญชัย กล่าว
