เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทยอยพาลูกมาให้ปากคำ บางส่วนมาแจ้งความดำเนินคดีกับ ครูอิ้ว น.ส.ทิพย์สุดา หินพราย อย่างต่อเนื่อง บางรายมาขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด เนื่องจากเกรงว่าลูกของตัวเองจะถูกทำร้ายร่างกายต่อ ร.ต.อ.อุทิศ อาสานอก รอง สว.สอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์อ.ปากเกร็ด คอยรับเรื่องและรับแจ้งความ
น.ส.รัตติยา เขม้นเขตการ หรือกุ๊ก อายุ 34 ปี แม่น้องออสก้า อายุ 3 ขวบ 2 เดือน เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ห้องซี กล่าวว่า เมื่อวานตนได้มาดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดภายในห้อง พบว่า ลูกชายถูกครูอิ้วกระชากผมจนลูกหน้าหงาย ก่อนที่ครูอิ้วจะเดินไปตบหน้าน้องน้ำขิง เพื่อนร่วมห้อง เหตุเกิดวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องการย้ายโรงเรียน ตอนนี้กำลังดูอยู่ เพราะอยู่ช่วงกลางเทอม
นายศักดิ์ดา การบุญ อายุ 42 ปี พ่อน้องน้ำขิง เด็กนักเรียนอนุบาล 1 ห้องซี กล่าวว่า ตนเห็นคลิปวิดีโอตอนที่ น้องน้ำขิงถูกครูอิ้วตบหน้า หยิกแก้ม ทุบหลัง โดยน้องน้ำขิงโดนทำร้าย 2 วัน ในวันที่ 21-22 กันยายน แต่ตนยังไม่ได้ดูวันอื่น กำลังจากขอภาพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปไล่ดูอีกทีว่าน้องน้ำขิงโดนทำร้ายอีกหรือป่าว
ด้านนายจตุรงค์ ฝั้นสาย อายุ 30 ปี พ่อน้องคูเปอร์ อายุ 3 ขวบ 9 เดือน ชั้นอนุบาล 1 ห้องเอฟ กล่าวว่า วันนี้ตนมาขอดูกล้องวงจรปิดจากห้องที่ลูกเรียนอยู่ เพราะบางวันน้องคูเปอร์หัวโนกลับมาบ้าน ตอนนี้ตนได้หาที่เรียนใหม่ให้น้องคูเปอร์ รอให้ปิดเทอมก่อน จะย้ายที่เรียนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีผู้ปกครองจากระดับชั้นอนุบาลที่เห็นคลิปวิดีโอลูกตัวเองถูกทำร้ายจำนวนหลายราย รวมทั้งนางสาวทัศนีย์ เทียมจันทร์ อายุ 33 ปี แม่น้องณดา ชั้นอนุบาล 1 ห้อง บี ที่ ถูกนางญาณวัฒนา จิตตวิมล ครูบลู และนางสาวเบญจมาพร บาทเงิน หรือพี่เลี้ยงเจี๊ยบ ใช้มือตีที่ท้องได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองด้วย
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า วันนี้พาผู้ปกครองชั้นเนิร์สเซอร์รี่จำนวน 10 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับครูผู้สอนชั้นเนิร์สเซอร์รี่ห้อง a 2 ราย เนื่องจากมีการทำร้ายร่างกายเด็กเนิร์สเซอร์รี่ พฤติกรรมที่กระทำที่พบเห็น นอกจากการทุบตีแล้ว ยังมีการเอาถุงดำคลุมเด็กไว้ทั้งตัว กรณีที่เด็กร้องไห้ หรือเด็กงอแงจนกว่าเด็กจะหยุด ทำให้เด็กบางคนแค่เห็นเอาถุงดำมาวางข้างๆ ก็เกิดอาการหวาดกลัวไม่นับ ส่วนกรณีที่เด็กบางรายมีรอยบาดแผลตามร่างกาย ซึ่งครูอ้างว่าเด็กเล่นกัน วันนี้ตำรวจให้มายืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กรายใดบ้าง ผ่านทางกล้องวงจรปิด แต่น่าเสียดายที่กล้องวงจรปิดสามารถดูย้อนหลังได้แค่ 3 วัน ทำให้พบเห็นพฤติกรรมเพียงเท่านี้ ล่าสุดครูที่สอนทั้ง 2 ราย คือครูอิงและครูแพรวได้หายตัวไปจากโรงเรียนแล้ว และไม่สามารถติดต่อได้ วันนี้จึงต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีข้อการทำร้ายร่างกายและการทารุณกรรมเด็กตามกฎหมายต่อไป การตรวจกล้องวงจรปิดชั้นอนุบาล 1 ปรากฏว่าห้องที่ค่าเทอมแพงที่สุดก็คือห้องโปรแกรมภาษาอังกฤษ จอวงจรปิดมืด 2 ห้อง นี่คือสิ่งที่ผู้ปกครองข้องใจใจเหมือนกัน
นายรณณรงค์กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ปกครองหลายคน จะไม่ให้เด็กไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนตั้งแต่มีเรื่องแล้ว ตอนนี้ก็พยายามหาที่เรียนที่อื่นอยู่ ส่วนทนายก็เอาเบอร์ที่ติดต่อเกี่ยวกับจิตแพทย์เด็กของสถาบันเกี่ยวกับเด็กให้ผู้ปกครองพาเด็กไปทำการรักษา เพราะเด็กมีอาการหวาดกลัว แค่พูดคำว่าชื่อเด็กก็ตัวสั่นแล้ว ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้เพราะว่าคลิปยังมีรายละเอียดอีกเยอะ แต่ผมว่าที่แรงที่สุดสำหรับผมก็คือการเอาเด็กนั่งแล้วเอาถุงดำทั้งถุงคลุมตัวเด็ก เพราะว่าเสียงที่เด็กจะขาดอากาศหายใจตายได้ ตอนนี้เบื้องต้นที่มีหลักฐานมีเพียงแค่ 3 วัน จึงแจ้งได้แค่ 10 รายก่อน ซึ่งในคลิปพบว่าครูชั้นเนิร์สเซอร์รี่ได้นำถุงดำมาคุมหัวเด็กและก็หัวเราะชอบใจกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พีคไปอีก!! ทนายรณณรงค์ แฉ ครูร.ร.เจ้าเก่า ใช้ถุงขยะครอบตัวเด็ก หลังทุบตีแล้วไม่หยุดร้อง
