สพฐ.ยัน ร.ร.ไม่มีอำนาจไล่เด็กแต่งไปรเวตออก
ตามที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ได้เผยแพร่ประกาศโรงเรียนเทพศิรินทร์ เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูแลนักเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เนื้อหาเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงแนวปฏิบัติของครูในการดำเนินการกับนักเรียนที่แต่งชุดไปรเวต โดยระบุให้นำเข้าห้องกิจการนักเรียน เรียกผู้ปกครอง พร้อมกับประกาศว่าหากปฏิบัติตามระเบียบไม่ได้ จะหาหน่วยงานอื่นมาดูแลต่อจนกว่าจะจบการศึกษานั้น
อ่าน ร.ร.เทพศิรินทร์ ขู่น.ร.ไม่แต่งเครื่องแบบ เรียกเข้าห้อง-คุยผู้ปกครอง-ให้หน่วยงานอื่นสอนแทน
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนเห็นประกาศดังกล่าวแล้ว ซึ่งเท่าที่ดูข้อความต้องตีความหลายชั้นไม่ได้หมายความว่าจะให้นักเรียนที่แต่งชุดไปรเวตมาเรียน ไปเรียนที่อื่น โรงเรียนอาจหมายถึงการให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งต้องเป็นความยินยอมของผู้ปกครองและนักเรียน ทั้งนี้ หากเด็กแต่งชุดไปรเวตมาเรียน ต้องมีสิทธิเข้าเรียน แต่ก็ต้องถูกลงโทษตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.2548 ซึ่งกำหนดโทษไว้ 4 ข้อคือ ตักเตือน, ทำทัณฑ์บน, ตัดคะแนนความประพฤติ และให้ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรงเรียนจะลงโทษนักเรียนเกินกว่านี้ไม่ได้
“โรงเรียนไม่สามารถลงโทษนักเรียนเกินกว่าที่ระเบียบกำหนดไว้ได้ ยกเว้นแต่เป็นความสมัครใจของผู้ปกครองและนักเรียน หากไม่มีความสุขที่จะเรียนที่โรงเรียนเดิมต่อไป ก็ต้องหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบยังไม่มีโรงเรียนใดให้เด็กที่แต่งชุดไปรเวตมาเรียนต้องย้ายที่เรียน” นายอัมพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้อำนวยการโรงเรียนรายใดให้เด็กที่แต่งไปรเวตออกจากโรงเรียนถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายอัมพรกล่าวต่อว่า เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มีโรงเรียนใดให้เด็กออก เพราะแต่งไปรเวต หากมีก็คงต้องดูข้อเท็จจริง เช่น กรณีมีการย้ายโรงเรียนจริง ก็ต้องไปดูกระบวนการ ซึ่งทางโรงเรียนอาจให้เด็กร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก่อนที่จะมีการขอย้ายโรงเรียนเพื่อความสุขของนักเรียน ตรงนั้นถือเป็นความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง เป็นต้น แต่ยืนยันว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่มีอำนาจให้เด็กออกจากโรงเรียน เพราะแต่งไปรเวตแน่นอน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนด
