จี้ ศธ.ดึงเด็กร่วมปฏิรูปการศึกษา ชี้ภาครัฐจัดการ 100% ไม่ตอบโจทย์

จี้ ศธ.ดึงเด็กร่วมปฏิรูปการศึกษา ชี้ภาครัฐจัดการ 100% ไม่ตอบโจทย์ ทำคนในชาติติดกรอบ-ปท.ล้าหลัง

ปฏิรูปการศึกษา – ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การศึกษาไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นการจัดการศึกษาโดยภาคราชการ ซึ่งผู้ใหญ่เป็นหลักคิด และวิธีคิดตั้งแต่เรื่องหลักสูตร การวัดผล ประเมินผล ระเบียบต่างๆ เรียกได้ว่าการจัดการศึกษาของนักเรียน 100% รัฐบาลเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด เด็กกลายเป็นเพียงผู้รับ และผู้ปฏิบัติตามเท่านั้น ทำให้เด็กอยู่แต่ในกรอบตามระบบหลักสูตร ระบบการวัดผล และถูกกดทับด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ เช่น ระเบียบทรงผม ระเบียบเครื่องแบบ ความมีวินัยค่านิยมต่างๆ เป็นต้น ผลที่เกิดจากการที่คิดแบบรัฐ ที่คิดแบบกำหนดกรอบ และคิดแบบใช้อำนาจ คือทำให้การศึกษาของประเทศอยู่กับที่ เพราะระบบนี้เป็นระบบที่ดึงคนในชาติให้ติดกรอบ ไม่กล้าออกมาแย้งเรื่องต่างๆ

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า เมื่อนักเรียนเริ่มตั้งคำถาม และเริ่มเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งทำให้นักเรียนเปิดกว้างไปสู่สากล นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องการสร้างพลเมือง ความเป็นประชาธิปไตย การแต่งชุดไปรเวต เรื่องเหล่านี้ถือเป็นอีกโลกของการศึกษาที่ทำให้เด็กเห็นความแตกต่าง เห็นความหลากหลายมากขึ้น เด็กเห็นการเรียนรู้ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นสากล ความเป็นประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้เด็กเข้าใจ เรียนรู้ และตระหนักว่าถ้ายังเดินตามการศึกษาแบบเดิมที่เด็กเรียนว่าเป็นยุคไดโนเสาร์ เป็นยุคอนุรักษ์นิยม และยังติดกรอบการใช้อำนาจนิยม ก็จะทำให้ประเทศไม่มีคุณภาพ ประเทศล้าหลัง ความสามารถภาษาอังกฤษต่ำลง เด็กจึงออกมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

“นอกจากลุกขึ้นมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เด็กได้ตั้งคำถามด้วยว่า การปฏิรูปการศึกษาแบบเดิมนั้น เห็นผลจริงหรือ ทำไมถึงช้า ฉะนั้น เด็กจึงมีเป้าหมายว่าควรจะต้องปฏิรูปการศึกษา โดยจับประเด็นที่ใกล้ตัวมากที่สุด คือ ทรงผม เครื่องแบบนักเรียน และหลักสูตร ทำให้เราเห็นว่าเด็กที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ใหญ่จัดการศึกษาไว้ให้นั้น ด้อยคุณภาพ เด็กจึงส่งเสียงให้ผู้ใหญ่ทราบว่าจะจัดการศึกษาแบบเดิมไม่ได้แล้ว จึงทำให้เราเห็นการปะทะกันระหว่างความคิดอนุรักษ์นิยม และเสรีประชาธิปไตย จะเห็นว่าการศึกษาถูกตั้งคำถามทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นระเบียบกฎเกณฑ์ และวิธีการที่ทำมานั้นถูกต้องหรือไม่” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะปฏิรูปการศึกษาแบบเดิม คือตั้งคณะกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อปฏิรูปการศึกษาแบบค่อยเป็นค่อยไปอีกไม่ได้แล้ว ถ้าจะปฏิรูปการศึกษา ต้องให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วม เพราะการศึกษามีผลกระทบกับชีวิตของเด็กโดยตรง ศธ.จะปล่อยให้ปฏิรูปการศึกษาดำเนินไปตามระบบราชการอีกหรือ ศธ.เคยคิดทบทวนหรือไม่ว่าทำไมการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยถึงแย่ลง ตนมองว่าเราควรจะยึดเด็กเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาการศึกษา

Advertisement

“เมื่อเด็กมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ร่วมตัดสินใจ การศึกษาจะเดินหน้าแบบถูกต้อง และรวดเร็วกว่าเดิมมาก แต่ถ้ายึดกฎระเบียบ จะต้องใช้อำนาจในการจัดการเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น คนในวงการศึกษาต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคิด ยกเลิกระเบียบที่ล้าสมัย และมองเจตนา หรือการตั้งคำถามเด็กเชิงบวกมากขึ้น ไม่ใช่ตั้งป้อมว่าเด็กก้าวร้าว ไม่รู้จักกาลเทศะ ควรให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ในการพัฒนาประเทศ” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image