ไฟเขียวเกณฑ์วิทยฐานะ ‘บิ๊กร.ร.’ ประเมิน ‘คงตำแหน่ง-เลื่อนขั้น’ ยื่นผลงานออนไลน์ดีเดย์1ต.ค.

ไฟเขียวเกณฑ์วิทยฐานะ ‘บิ๊กร.ร.’ ประเมิน ‘คงตำแหน่ง-เลื่อนขั้น’ ยื่นผลงานออนไลน์ดีเดย์1ต.ค.

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สำหรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ กำหนดให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกคน ต้องทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เป็นประจำทุกปี ประกอบด้วย 2 ส่วน ดังนี้ 1.ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ และ 2.ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ซึ่งจะมีรอบการประเมินปีงบประมาณละ 1 ครั้ง ผลการประเมินต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการบริหารงานบุคคล ได้แก่ ใช้เป็นคุณสมบัติในการขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ใช้เป็นผลการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ และใช้เป็นองค์ประกอบในการประเมิน เพื่อพิจารณาเลื่อนเงินเดือน สำหรับการยื่นคำขอ ให้ยื่นได้ตลอดปี ภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยหากยื่นไว้แล้ว ต้องได้รับแจ้งมติไม่อนุมัติก่อน จึงจะยื่นในวิทยฐานะเดิมได้

นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะประเมิน 2 ด้าน คือ ทักษะการวางแผนกลยุทธ์ การใช้เครื่องมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร และผลลัพธ์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษจะเพิ่มการประเมิน ผลงานทางวิชาการด้วย ส่วนการยื่นคำขอ ให้ยื่นคำขอและหลักฐานประกอบการประเมินผ่านระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัล โดยจะให้มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นการทำงานต่อเนื่อง จากหลักเกณฑ์วิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้ว และหลังจากนี้ จะพิจารณาร่างหลักเกณฑ์วิทยฐานะของศึกษานิเทศก์และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตามลำดับ

“สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางที่จะทำให้เห็นภาพชัดที่ทำให้ผู้บริหารเห็นการเจริญเติบโตของสายงานต่างๆ ใน ศธ. เพราะเราพยายามสร้างความชัดเจน และพยายามสร้างทำให้ผู้บริหารมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ยอมรับว่าหลักเกณฑ์ใหม่อาจจะมีความยากในการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะมากขึ้น แต่ทั้งหมดที่ทำเพราะต้องการให้ทุกภาคส่วนใน ศธ. โดยเฉพาะครูและผู้บริหารได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ศธ.พยายามสร้างทุกอย่างให้มีมาตรฐานเดียวกัน” นายณัฏฐพลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image