‘ธนพร’ ลั่นไม่ปล่อยกู้ ‘ช.พ.ค.-ช.พ.ส.’ 8 ค้านใช้เงินทำบุญเพื่อนครูค้ำประกัน

‘ธนพร’ ลั่นไม่ปล่อยกู้ ‘ช.พ.ค.-ช.พ.ส.’ 8 ค้านใช้เงินทำบุญเพื่อนครูค้ำประกัน สกสค.ทวงออมสินหมื่นล้านยังไม่คืบ

นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่องค์กรครูออกมาเรียกร้องให้สรรหาเลขาธิการ สกสค.ใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ สกสค.เปิดเผยคะแนนการคัดเลือกผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด เพราะเกรงว่าอาจไม่เหมาะสม หรือชอบธรรมนั้น หากดูตามข้อกฏหมายใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ.2540 กำหนดชัดเจนว่า ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถขอดูคะแนนของตน และคู่แข่งได้ แต่ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่สามารถมายื่นขอดูคะแนนได้ ยืนยันว่า สกสค.ไม่ปิดกั้นข้อมูลในส่วนนี้ และขณะนี้ยังไม่มีผู้มายื่นหนังสือขอดูคะแนนการคัดเลือก มองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ อาจเป็นการเมืองในวงการครูเท่านั้น

“ยืนยันว่าการคัดเลือกผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด โปร่งใส ไม่มีเล่นพรรคเล่นพวก ตรวจสอบได้ เพราะการคัดเลือกผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดครั้งนี้ สกสค.ใช้คณะกรรมการ 5 ชุด เพื่อคัดเลือก ตรวจคุณสมบัติผู้สมัคร ตรวจผลงาน ตรวจวิสัยทัศน์ ส่วนการสัมภาษณ์ ผมไม่ได้เป็นคนสัมภาษณ์ และเชิญข้าราชการระดับ (ซี) 9 และซี 10 ของ ศธ.มาช่วยสัมภาษณ์กว่า 50 ราย ดังนั้น ผมไม่มีธงใดๆ ในการคัดเลือกผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดทั้งสิ้น” นายธนพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแผนปล่อยกู้เงินเพื่อช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษาตามโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) โครงการใหม่หรือไม่ นายธนพร กล่าวว่า ตนไม่มีวันปล่อยกู้ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.เพราะการกู้ของครู เป็นการเพิ่มหนี้สินให้ครู และมองว่าการกู้ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.ในอดีตนั้น ทำผิดวัตถุประสงค์ เพราะเงิน ช.พ.ค.เป็นเงินที่ครูทำบุญให้เพื่อนที่เสียชีวิต ไม่สามารถเอามาเป็นหลักประกันในการกู้หนี้ยืมสินได้ และเมื่อนำเงิน ช.พ.ค.ไปเป็นหลักประกัน ถ้าครูเสียชีวิต ครอบครัวก็อยากได้เงินไปทำศพ แต่กลับไม่ได้เงินมาใช้ เพราะถูกหักหนี้ที่ยืมไปแล้ว

“ในยุคผม จะไม่เปิดกู้ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.โครงการ 8 แน่นอน เพราะไม่เห็นว่าจะมีหลักทรัพย์ใดมาค้ำประกันในการกู้เงินได้ และผมไม่เห็นด้วย กับการนำเงิน ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน เพราะถือเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ผมอยู่ระหว่างติดตามเงินจากธนาคารออมสิน ที่จะต้องคืนเงินให้กับ สกสค. 1 หมื่นล้านบาท เพราะเงินส่วนนี้หักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการ ช.พ.ค.ที่ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดย สกสค.ทำหนังสือไปชี้แจง และประสานงานกับธนาคารแล้ว รอทางธนาคารออมสินติดต่อกลับมา” นายธนพร กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image