ศธ. หารือ ยูนิเซฟ ช่วยเด็กในพื้นที่ห่างไกล นำร่อง โรงเรียนขนาดเล็ก 2 แห่ง
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นางคิม คยองซัน ผู้แทนองค์กรยูนิเซฟ ประเทศไทยว่า ยูนิเซฟให้ความสนใจกับเรื่องของการศึกษาในเด็กประฐมวัยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในเด็ก ดังนั้น ศธ. และยูนิเซฟ จะทำความร่วมมือร่วมกันในเรื่องความปลอดภัยในเด็กเล็ก จากโรคภัยไข้เจ็บหรือแม้แต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งตรงกับที่ตนได้เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องขอพิจารณาให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับโอกาสในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งทางยูนิเซฟดีใจมาก เพราะให้เป็นการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเด็ก นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือเรื่องการจัดการเรียนการสอน แบบ Digital Transformation การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อให้ครูและนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้ทีการยกระระดับความรู้ด้านดิจิทัลและภาษาอังกฤษมากขึ้น
คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ศธ. ได้คัดเลือกโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จำนวน 2 แห่ง เพื่อนำร่องการศึกษาแบบ Digital Transformation โดยเป็นโรงเรียนใน จ.กาญจนบุรี ที่มีนักเรียนจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มาเรียนด้วย และโรงเรียนใน อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อให้ครูและนักเรียนมีความรู้ด้านดิจิทัล สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีหน่วยงานภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนนุนการดำเนินงาน ทั้งด้านวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือการเรียนการสอน และอินเตอร์เน็ต รวมถึงการส่งครูภาษาอังกฤษไปประจำอยู่ที่โรงเรียนทั้ง2 โรงเรียน โดยการนำร่องดัวกล่าว จะใช้เวลาในการดำเนินการ 3-6 เดือน และจะมีการประเมินผลว่าครูและเด็กมีทักษะด้านภาษาและด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้นหรือไม่
“สำหรับความร่วมมือในอนาคตนั้น ศธ. อยากให้ทางยูนิเซฟจัดทำวารสาร เพื่อรวบรวมผลงานและการดำเนินงานต่างๆของยูนิเซฟไว้ ซึ่งจะทำให้สังคมเห็นภาพรวมการทำงานของยูนิเซฟมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของยูนิเซฟด้านการศึกษา ส่วนใหญ่จะเป็นความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามากกว่า ส่งผลให้ผลการดำเนินงานมีความกระจัดกระจาย ดังนั้น การจัดทำวารสารเพื่อรวบรวมงานของยูนิเซฟ จะทำให้การทำงานระหว่างยูนิเซฟและศธ.มีประสิทธิภาพมากขึ้น” คุณหญิงกัลยา กล่าว
