อธิการฯ มธบ.รุกพัฒนา ‘ทักษะ-เทคโนโลยี’ นักศึกษา

อธิการฯ มธบ.รุกพัฒนา ‘ทักษะ-เทคโนโลยี’ นักศึกษา

ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยถึงแนวทางการทำงานภายหลังเข้ามารับหน้าที่บริหารงาน มธบ.ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และการดำเนินต่อเนื่องในอนาคต ว่า จากที่มีการพัฒนา และปรับระบบงานต่างๆ ถึงวันนี้พร้อมมาก ทั้งเรื่องการบริหารจัดการภายในที่ทำมาหลายปี และแล้วเสร็จในปีนี้ การปรับหลักสูตรให้สอดรับกับการเรียนการสอนที่เปลี่ยนไป รวมถึง การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนด้านการศึกษาในภาพรวม แนวทางการพัฒนา DPU มุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก คือ ระบบ หลักสูตรและพัฒนาคน และเน็ตเวิร์คกิ้ง ด้านการพัฒนาระบบ ที่ผ่านมาดำเนินการใน 3 ด้าน การทำงานที่ถือเป็นหัวใจของมหาวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่ระบบงานด้านการเงินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิม Student Life Cycle Management หรือ SLCM ระบบงานการบริหาร และข้อมูลนักศึกษา ที่สามารถดูแลตั้งแต่เริ่มสมัคร ระหว่างเรียน ไปถึงจบการศึกษา สุดท้ายระบบการบริหาร และพัฒนาบุคลากร

“จากระบบทั้ง 3 ส่วนที่ได้พัฒนา เรามีความพร้อมมากๆ ในการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้เรียน โดยเฉพาะด้านออนไลน์” ดร.ดาริกา กล่าว

ดร.ดาริกากล่าวอีกว่า อีกแนวทางการพัฒนาที่ มธบ.ดำเนินการไปแล้วกับหลักสูตรที่เรียกว่า DPU Core ที่เป็นเอกลักษณ์ และบ่งบอกถึงตัวตนของนักศึกษาที่ผ่านกระบวนการเรียนการสอนจาก มธบ.และกำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจวันนี้ และในอนาคต โดย DPU Core ประกอบด้วย 6 ทักษะที่จำเป็นต้องมีสำหรับโลกอนาคต ประกอบด้วย 1.ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ กระบวนการคิด และแก้ปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้น 2.ทักษะด้านการสื่อสาร มีทักษะในการเจรจา และสื่อสารในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ให้ผู้ฟังเข้าใจ 3.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4.ทักษะการมีความคิดสร้างสรรค์ 5.ทักษะการทำงานเป็นทีม ต้องรู้จักการทำงาน และประสานงานร่วมกับผู้อื่น และ 6.ทักษะด้านเทคโนโลยี รู้จักเครื่องมือต่างๆ เพื่อเลือกที่นำมาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“นักศึกษาที่ผ่าน DPU Core จะมีทักษะ และมุมมองที่แตกต่างออกไป ด้วยการเรียนในแบบโมดูล (Module) สร้างโอกาสการเรียนรู้ และบูรณาการความรู้จากกลุ่มวิชาที่เลือกเรียนได้ตามที่ต้องการ ซึ่งนักศึกษาสามารถนำไปใช้การประกอบอาชีพได้ทั้งในระหว่างเรียน และเมื่อจบการศึกษา” ดร.ดาริกา กล่าว

Advertisement

ดร.ดาริกากล่าวต่อว่า เรื่องของการจัดการเรียนการสอน จะเน้นการเรียนที่เป็น Hybrid Education เป็นการผสมผสานระหว่างการเรียนแบบออนไลน์ และในห้องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องปรับตัวเป็นเรียนออนไลน์ 100% ซึ่งทั้งอาจารย์ และนักศึกษา ทำได้ดีไม่มีสะดุด เพราะได้มีการเตรียมการไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ตอนนี้ มธบ.สามารถเรียน Hybrid ออนไลน์ได้แล้ว 100% ในปีการศึกษา 2564 แต่มีบางวิชาที่ไม่ได้เป็น 100% ทั้งหมดเพราะต้องมีการพบปะ และทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งอาจารย์ผู้สอนจะทำการออกแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสม และสอดรับกับการเรียนรู้ในแต่ละวิชา เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Outcome Base Education” ดร.ดาริกา กล่าว

Advertisement

ดร.ดาริกากล่าวว่า สุดท้ายเป็นเรื่องของเน็ตเวิร์คกิ้ง การผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ภายนอกเพื่อให้เกิดการพัฒนา และขับเคลื่อนการศึกษาทั้งระบบ มธบ.ได้ร่วมทำงานกับหลายภาคส่วน เพื่อกระตุ้น และขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาคนให้เป็น Future Workforce ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึง การก้าวไปเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและแข่งขันได้ในอนาคต

ดร.ดาริกากล่าวอีกว่า ภาพรวมของการพัฒนาที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น วันนี้ในระบบการศึกษาของภาคเอกชน มีคนรุ่นใหม่เข้าเป็นนักศึกษาประมาณ 2 แสนคน ทำอย่างไรจะพัฒนาขีดความสามารถ และทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับคนกลุ่มนี้ เพื่อก้าวไปเป็นกำลังหลักในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี หากทำได้จริง จะส่งผลรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้ โดยในส่วนของ มธบ.ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องได้แก่ DPU Core รวมถึง แนวคิด Work Integrated Learning หรือ WIL การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับสถานประกอบการ ขณะเดียวกันก็เร่งทำงานผสานกับแพลตฟอร์มอื่นๆ จากหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐ เพื่อผลักดันศักยภาพของคนในวัยกำลังศึกษาให้มากขึ้นกว่าเดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image