‘มช.’ จับมือ ‘หัวเว่ย’ รุกสู่ ‘มหา’ลัย5G’ แห่งแรกในอาเซียน

‘มช.’ จับมือ ‘หัวเว่ย’ รุกสู่ ‘มหา’ลัย5G’ แห่งแรกในอาเซียน

เมื่อ “หัวเว่ย” ผู้นำเทคโนโลยีสื่อสารอันดับต้นๆ ของโลก ดำเนินโครงการอะไรก็ตามสปอตไลต์ย่อมฉายให้คนจับตา อย่างล่าสุดที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ยกระดับการใช้เทคโนโลยี “5G”

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มช. “อาเบล เติ้ง” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ “ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต” อธิการบดี มช. ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วย “5G Powered Smart University Enabled with Cloud and AI” เพื่อยกระดับและติดตั้งโครงสร้าง
พื้นฐานด้านไอทีและการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้เป็นห้องเรียนอัจฉริยะและโซลูชั่นเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้นในระยะ 5 ปี

โดยมี “ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย” องคมนตรีและนายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี พร้อม “พิริยะ เข็มพล” อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และที่ปรึกษาอธิการบดี มช. และ “รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์” กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมเป็นสักขีพยาน

บันทึกข้อตกลงดังกล่าว ทาง มช.มีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัยดิจิทัล” ชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน และเป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เพิ่มพูนเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะ นอกจากข้อได้เปรียบทางวิชาการแล้ว ยังเป็นต้นแบบสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะรับทราบถึงประโยชน์ของโซลูชั่นต่างๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจ

Advertisement

ตลอดจนการให้บริการเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Big Data และ Cloud ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศูนย์บริหารและการจัดการเมืองอัจฉริยะ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ให้กลายเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ ได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลล่าสุดและบริการขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี 5G
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษมระบุว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการพัฒนาในยุคดิจิทัล เทคโนโลยี 5G นับเป็นกุญแจสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ อุตสาหกรรม เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลในทุกๆ ด้าน อาทิ Smart Agriculture, Smart Hospital, Smart City, Smart Port, Smart Campus, Smart Store และ Smart Entertainment เพื่อสร้างการเติบโตทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G เพื่อการศึกษาและนำไปสู่ Digital Transformation ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะพัฒนาให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำ และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

“หัวเว่ยจะนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาใช้ และจะสร้างดิจิทัลไฮเวย์, บิ๊กเวย์ และสมอลล์เวย์นำข้อมูลและเนื้อหาที่สำคัญกระจายไปในทุกช่องทาง ทั้งเรื่องสุขภาพ วิชาการต่างๆ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และเรื่องปุ๋ย ที่นักวิชาการใน มช.สร้างขึ้น เป็นเครือข่ายนำเทคโนโลยีไปให้คนไทยในทุกหมู่เหล่า ทั้งเมืองใหญ่และเมืองเล็ก ผ่านช่องทางดิจิทัลที่เรียกว่า ถนนสาย มช. ไปยังทุกที่ ด้วยระบบที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนตั้งแต่เมืองล่าง คือ ตำบล หมู่บ้าน อำเภอ และเมืองบน ได้แก่ จังหวัดและกรุงเทพฯ จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ไปมอบให้ทุกโรงเรียนของเมืองล่าง เพื่อให้ทุกคนสามารถหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี” ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษมแจกแจง

ด้าน ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ เสริมว่า ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับหัวเว่ยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัย ที่จะนำความทันสมัยของเทคโนโลยี 5G มาขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษา พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีสนับสนุนการวิจัยที่รองรับการเติบโตของโลกยุคดิจิทัล และนำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ 5G แห่งแรกในอาเซียน หรือ CMU : Moving Forward to “5G Campus : First in ASEAN” (The First 5G campus in ASEAN) เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทยให้ดียิ่งขึ้น

Advertisement

ขณะที่ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดี มช. ระบุว่า มั่นใจว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิดความสำเร็จในการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่ด้านการศึกษา แต่รวมถึงการพัฒนาในด้านอื่นๆ ต่อไป เพราะนโยบายของเราคือการเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล เราจะสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่
มุ่งมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและการ
พัฒนาที่ยั่งยืน

“พิริยะ” เสริมอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะยกระดับขีดความสามารถของ มช.เป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ 5G ที่นำเทคโนโลยี Cloud และ AI มาช่วยจัดการเรียน การสอน และการวิจัย จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายยุค 4.0 ต่อไป

ทั้งนี้ โซลูชั่นด้วยเทคโนโลยี 5G จะช่วยยกระดับคุณภาพสัญญาณการสื่อสารให้มีความแรง คมชัด ทั้งในแง่การแพทย์ ที่มีการหารือร่วมกัน เพื่อวางกรอบระยะยาวในการพัฒนา Smart Hospital เชื่อมต่อกับคนไข้และพยาบาลที่อยู่ในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาล รถไร้คนขับส่งของ ส่งเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ หรือแม้แต่ระบบขนส่งมวลชนภายในมหาวิทยาลัย ที่ใช้ 5G นับจำนวนผู้โดยสาร บันทึกภาพจากห้องผู้โดยสาร ติดตามว่ารถโดยสารอยู่ที่ไหน และอีกกี่นาทีจะมาถึง

“อาเบล เติ้ง” ให้ข้อมูลว่า หัวเว่ยมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนางานร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีนักศึกษากว่า 35,000 คน โดยนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ เพื่อก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะแห่งแรกของอาเซียน ก่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาว ไม่เพียงแต่นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสังคม ท้องถิ่น และประเทศไทยโดยรวม ยิ่งปัจจุบันที่โลกประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและทันเหตุการณ์ ทั้งในแง่การเรียนการสอนในรูปแบบ Smart Class Room หรือนำ Cloud และ AI ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจหรือระบบอื่นๆ ของไทยให้ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วในโลกสมัยใหม่

ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามความร่วมมือฯ มีการสาธิตจากสถานการณ์จริง โดยแพทย์จากห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ติดต่อผ่านระบบ 5G ของหัวเว่ย เข้ามาปรึกษาอาการผู้ป่วยชายที่เจ็บหน้าอกกับ “ผศ.นพ.กฤษณ์ ขวัญเงิน” รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รองคณบดีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ) ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ ณ ห้องประชุม ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที และยังส่งตรงไปยังห้อง Smart Class Room ที่มีนักศึกษาแพทย์ปี 5 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งกำลังมีการเรียนการสอนได้ทันที โดยไม่ต้องลงไปเรียนยังห้องฉุกเฉิน

ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ลงนามบันทึกความร่วมมือกับหัวเว่ยครั้งแรก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 เพื่อพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้าน ICT ผ่านโครงการ Huawei ICT Academy ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรภาคปฏิบัติและการฝึกอบรมภาคปฏิบัติสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล

กระทั่งมาลงนามในครั้งนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาและอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคนและสังคม ให้เท่าทันกับเทคโนโลยี 5G อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image