กก.ปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา หารือ ‘สพฐ.’ ขับเคลื่อนระบบการศึกษาแบบบูรณาการ 

กก.ปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา หารือ ‘สพฐ.’ ขับเคลื่อนระบบการศึกษาแบบบูรณาการ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายวรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้การประชุมหารือการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่ามีความคิดเห็นที่ตรงกันในหลายเรื่อง โดยมีภารกิจหลักที่ต้องทำร่วมกันใน 5 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาการเรียนการสอน การพัฒนาครู เรื่องที่เกี่ยวกับการอุดมศึกษา วิจัยและธรรมาภิบาล เรื่องกองทุนเพื่อความเสมอภาค และเรื่องของอาชีวศึกษา ซึ่งเกือบทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีคนทำอยู่แล้ว แต่เราได้มารวบรวมถักทอให้เป็นงานที่ทำร่วมกัน เพื่อระบุไว้เป็นแผนพัฒนาประเทศ ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายนปี 2565 โดยเฉพาะใน 3 เรื่องใหญ่ที่ เลขาธิการ กพฐ. ได้พูดไว้ ในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มความเสมอภาคทางการศึกษา รวมถึงเรื่องของหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่เป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญสำหรับการศึกษาของประเทศไทย และยังมีเรื่องของจำนวนคนไทยในอนาคตข้างหน้า ที่ต้องมีการจำลองสถานการณ์ว่าจะมีจำนวนครูและนักเรียนเท่าใด ซึ่งจะเกี่ยวพันกับการผลิตครูในอนาคต

นายวรากรณ์ กล่าวต่อไปว่า จากการพูดคุยหารือกันทำให้เข้าใจตรงกันมากขึ้น ทางคณะกรรมการปฏิรูปฯเองก็พร้อมจะเป็นคนกลางในการจัดสัมมนาให้คนที่มีความสนใจเข้ามารับฟังในเรื่องการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาที่ได้ทำร่วมกับ สพฐ. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการไปหารือกับเลขาธิการสภาการศึกษาและเลขาธิการอาชีวศึกษาแล้ว ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้แผนปฏิรูปการศึกษาเป็นแผนของประชาชน เป็นแผนที่ร่วมมือกันด้านระบบการศึกษา ไม่ใช่แผนของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่จะต้องเป็นแผนที่มาจากความเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งจะดำเนินการทำแผนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ

“ทั้งนี้ จะมีการรายงานความก้าวหน้าต่อสภาผู้แทนราษฎรทุก 3 เดือน โดยมีแผนว่าจะต้องทำแผนอะไรบ้าง ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่เราต้องผลักดันคือ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ โดยขณะนี้ รอให้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อจะเข้าสู่สภาฯ เป็นอย่างแรก นอกจากนี้ยังมีพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับอื่น ที่ต้องมีการขับเคลื่อนให้เดินไปข้างหน้า พร้อมที่จะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเพื่อสนับสนุน พ.ร.บ. เหล่านี้ให้เดินไปข้างหน้าโดยเร็วที่สุด และยังมีโครงการย่อยอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนปี 2565 ทั้งเรื่องของอาชีวศึกษา เรื่องธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย และเรื่องของงานวิจัย ซึ่งทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กำลังดำเนินการอยู่อย่างเข้มข้นเช่นกัน” นายวรากรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image