สำนักพุทธฯแจง พระตัดคอสึกก่อนทำกิโยติน นักวิชาการชี้ ฆ่าตัวตายผิดวินัยสงฆ์ไม่ใช่หลักของพุทธศาสนา
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวถึงกรณีที่เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู ได้ทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกิโยติน อ้างว่าถวายเป็นพุทธบูชาว่า พศ.คงไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายอะไรได้ เพราะกรณีของพระธรรมกร ทราบว่าได้มีการลาสิกขาก่อนที่จะกระทำการฆ่าตัดคอตัวเอง ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล เพราะขณะกระทำการดังกล่าวได้ขาดจากความเป็นพระแล้ว เพียงแต่นุ่งขาว ห่มขาวและอาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์ ที่ต้องได้รับอนุญาตจากพระผู้ปกครอง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องลงไปดูและทำความเข้าใจ ส่วนเรื่องการดำเนินการทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
อ่าน สำนักพุทธฯ ชี้พระตัดหัวเป็นพุทธบูชา ความเชื่อส่วนบุคคล
– แพทย์ชี้พุทธศาสนาไม่สอนปลิดชีพถวาย ส่งทีมจิตแพทย์ลงพื้นที่หาความผิดปกติ
– เจ้าคุณประสาร ชี้ พระกิโยติน ผิดหลักพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงติเตียน
นายชาญณรงค์ บุญหนุน อาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) กล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีตัวอย่างและบันทึกการเผาตัวเองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในสมัยรัชกาลที่ 1 แต่ก็ไม่ได้เป็นแนวทางที่ยอมรับของพุทธศาสนิกชนทั่วไป สำหรับกรณีของพระรูปดังกล่าวนั้น ส่วนตัวไม่แน่ใจว่า นำแนวปฏิบัติเรื่องนี้มาจากที่ใด เป็นไปได้ว่าอาจนำมาจากบันทึกเรื่องเล่า หรือนิทานที่เกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า ตรงนี้ต้องไปศึกษาลงรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นความเชื่อตามหลักการในเรื่องใด แต่แน่นอนว่าไม่ใช่การบำเพ็ญเพียรตามหลักการของพระพุทธศาสนา ซึ่งการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า และพระธรรมวินัย ระบุไว้ชัดเจนในเรื่องการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ถือเป็นความผิดบาป ดังนั้น การที่พระสงฆ์ฆ่าตัวตายด้วยวิธีใดๆ ก็ตามย่อมถือเป็นการทำผิดวินัย และเป็นบาปอย่างร้ายแรง
“ส่วนตัวไม่กังวลว่าการกระทำของพระรูปดังกล่าวจะทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเชื่อในเรื่องการบำเพ็ญทุกขกริยา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แต่จะเชื่อในเรื่องของการถือศีล ปฏิบัติธรรม เรื่องนี้ผมเองมองในแง่ของความศรัทธาที่สุดขั้ว ซึ่งทางพระพุทธศาสนาคงไม่เป็นเช่นนั้น เชื่อว่าคงไม่มีเรื่องพฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้น” นายชาญณรงค์กล่าว
นายชาญณรงค์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางกฎหมายสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) คงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ แต่คงต้องกำชับพระปกครอง สอดส่องดูแลหรือให้ความรู้ในเรื่องแนวปฏิบัติที่ถูกต้องกับคณะสงฆ์ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมวินัยและหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
