รพ.สนามธรรมศาสตร์ ยุติคอลเซ็นเตอร์จองวัคซีน หลังรบ.เบรก ‘หมอพร้อม’ หวั่น 5.7 หมื่นที่จองแล้ว จะได้วัคซีนหรือไม่
วันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กยุติคอลเซ็นเตอร์จองฉีดวัคซีน ไม่แน่ใจว่า 57,500 รายที่ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน “หมอพร้อม” จะได้ฉีดหรือไม่ โดยหากไม่ได้ ก็หวังคำขอโทษและคำชี้แจงจากรัฐบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เมื่อวานเราเตรียมการศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ยิมเนเซียม 4 ไว้พร้อม 100%แล้วสำหรับให้บริการประชาชนผู้สูงวัยวันละ 2,000 คน เหลืออย่างเดียวที่ยังยืนยันไม่ได้ ก็คือเราจะมีวัคซีนมาให้ฉีดกับประชาชนไหม?
ถึงวันนี้ ตัวเลขผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมเพื่อมาฉีดวัคซีน Astra zeneca กับเราจนถึงตอนบ่ายสามโมง มีจำนวนถึง 57,500 คนแล้วนะ คนเหล่านี้มีความหวังเล็ก ๆ อยู่ในใจอยู่ในวงสนทนาของครอบครัวแต่ละครอบครัวว่า ถึงวันนัดที่พูดกันไว้เป็นมั่นเหมาะโดยนายกรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวง โดย ศบค. และโดยรัฐบาลทั้งคณะมานานหลายเดือนแล้ว พวกเขาจะมีโอกาสได้รับวัคซีน ได้มีภูมิคุ้มกันและได้มีโอกาส อย่างน้อยก็ที่ตัวของพ่อแม่ ผู้สูงอายุในครอบครัว ที่จะสามารถมีชีวิตต่อไปโดยปกติสุขได้บ้างหลังได้รับวัคซีน ในระหว่างการคุกคามของโรคร้ายนี้
เรามีความหวังและเราเชื่อว่าในฐานะผู้ปกครองประเทศ ในฐานะรัฐบาลที่กุมชะตาชีวิตของทุก ๆ คนผ่านการออกกฎหมาย จัดงบประมาณ ออกคำสั่งต่อผู้คนและตัดสินใจในเรื่องนโยบาย รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เป็นสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับผู้คนทั้งประเทศตลอดระยะเวลาสามสี่เดือนติดต่อกันมานี้ ว่าจะจัดหาวัคซีน Astra Zeneca ให้กับทุก ๆ คนที่พากเพียรลงทะเบียนกับหมอพร้อมจนสำเร็จและรอคอยวันนัด นับแต่ 7 มิถุนายน ที่จะต้องมีวัคซีนมาให้กับทุกคนในจำนวนสี่ล้านกว่าคนที่ลงทะเบียนไว้และเฝ้ารอมานานหลายเดือน
57,500 คนที่ลงทะเบียนมารับวัคซีนที่ธรรมศาสตร์ กับอีกหลายล้านคนที่ลงทะเบียนรับวัคซีนไว้ทั่วประเทศตามที่รัฐบาลสัญญาไว้ รอการทำตามสัญญาจากรัฐบาลอยู่
ถ้าวัคซีนไม่มาตามนัดอย่างน้อยพวกเราควรจะได้รับคำขอโทษ และคำอธิบายชี้แจงจากใครทั้งหลายที่เคยสัญญาไว้ และบอกกับพวกเราว่าจะทำอย่างไรต่อไปในวันพรุ่งนี้ โดยไม่เบี่ยงเบน ไม่เอาสีข้างเข้าถู ไม่โทษโน่นโทษนี่ อย่างที่ได้ยินในวันนี้ไหมนะ
ช่างเถอะ เราไม่ใช่ผู้ปกครอง ไม่ใช่ผู้กำหนดนโยบาย แต่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตัวเล็กๆ ที่อยู่ในสนามรบ ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ รักษา และป้องกันแนวรับของเราไว้ให้ดีที่สุด และต้องคอยปรับตัวตามทิศทางการตัดสินใจที่ไร้เอกภาพอย่างนี้ไปในแต่ละวัน แต่พวกเราก็จะก้มหน้าก้มตาทำงานของพวกเราที่หนักหนายิ่งขึ้นทุกวันนี้ต่อไป เพราะสิ่งที่พวกเราดูแลปกป้องอยู่ด้วยความยากลำบากนี้ สำคัญมากกว่ารัฐบาล หรือรมต.คนไหนๆ พวกเรากำลังช่วยดูแลพี่น้องคนไทยทั้งหลายอยู่ และจะไม่ละทิ้งหน้าที่นี้ไปเป็นอันขาด
ข้อนึงที่พวกเราต้องปรับตัวตามนโยบายที่เปลี่ยนเป็นรายวันและไม่ค่อยมีเหตุผลที่ดีนี้ก็คือ เมื่อรัฐบาลและศบค.ลอยแพหมอพร้อม และยุติระบบการจองฉีดวัคซีนผ่านแอพนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์จึงจำเป็นต้องยุติการรับจองวัคซีนผ่านศูนยจองวัคซีนธรรมศาสตร์ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปด้วย เนื่องจากแอพพ์หมอพร้อมประกาศยุติการรับจองคิวรับวัคซีนแล้ว พวกเราจึงไม่สามารถอัพโหลดข้อมูลการจองผ่านคอลเซ็นเตอรของเราขึ้นแอพพ์หมอพร้อมได้ และยังไม่สามารถรับประกันการได้รับวัคซีนที่จะรับจองต่อไปในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน
แต่กรณีของคนจำนวน 57,500 รายที่จองฉีดไว้ที่ศูนยรับวัคซีนธรรมศาสตร์ ได้บันทึกอยู่ในระบบของหมอพร้อมเรียบร้อยแล้ว เราคาดว่าส่วนนั้นจะไม่มีปัญหา เพราะมีคนหลายล้านชื่อที่ถูกบันทึกคิวไว้ในระบบแล้ว แปลสั้นๆ ก็คือและพรุ่งนี้คอลเซ็นเตอร์จองวัคซีนของธรรมศาสตร์จะหยุดชั่วคราวและมีเสียงตอบรับอัตโนมัติแจ้งการยุติการรับจองชั่วคราวเมื่อมีผู้โทรเข้ามาจองวัคซีนนะ เราจะมาพบกันใหม่อีกเมื่อชาติต้องการเรา แต่ใครที่จองไว้เรียบร้อยแล้ว ชื่อและวันก็ยังอยู่นะ รอเขาบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ในสัปดาห์หน้า
กลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า ที่โรงพยาบาลสนาม วันนี้มีผู้ป่วยใหม่รับเข้ามา 19 รายแต่เราส่งผู้ป่วยกลับบ้านได้ถึง 43 ราย เพราะฉะนั้นยอดผู้ป่วยที่พักค้างอยู่กับเราลดลงเหลือเพียง 171 รายเท่านั้น นับว่าเป็นข่าวดีถ้าไม่เหลือบไปมองอัตราการเสียชีวิตของทั้งประเทศที่วันนี้เสียชีวิตสูงถึง 41 คนทำลายสถิติทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น เห็นแล้วเศร้าใจจริง
ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ วันนี้เรารับผู้ป่วยเข้ามาต่ำกว่า 10 รายและส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลสนามหรือกลับบ้านได้มากกว่าเล็กน้อยจำนวนผู้ป่วยสีแดงในหอผู้ป่วยวิกฤติ RCU ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจลดลงเหลือเพียงสองราย และในหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤต Cohort ICU 16เตียง ก็สามารถ off High Flow ได้ทั้งหมด นี่นับเป็นข่าวดีมากๆในกลุ่มผู้ป่วยอาการวิกฤตที่เราจะพยายามทำให้คนเหล่านี้กลับบ้านให้ได้มากที่สุดวันนี้จำนวนรวมของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลหลักอยู่ที่ประมาณ 60 กว่าราย ยังมีเตียงว่างสำหรับรับเข้ามาใหม่พรุ่งนี้ได้อีก 15 เตียง แต่ก็มีคำขอ refer ผู้ป่วยหนักจากบาง รพ. มารออยู่ตั้งแต่เย็นวันนี้ด้วยแล้วนะ
ตั้งแต่สัปดาห์หน้า รพ.ธรรมศาสตร์จำต้องทะยอยเปิดห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของจำนวนห้องแล้ว ด้วยความจำเป็นของผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดที่มีมากขึ้น
วันนี้เล่าเรื่องไม่ค่อยปะติดปะต่อ คงเพราะว่าเหนื่อย เพลีย และสับสนจากเรื่องที่อธิบายกันข้างๆคูๆ แบบเด็กเล่นขายของที่ได้ยินมาตลอดทั้งวันหรือเปล่า ขอจบแค่นี้และไปทำความเข้าใจกับภาษาหมอๆที่ได้ยินมาจากทีวีสักคืนนึงนะ ว่ามันแปลว่าอย่างไรแน่