น.ศ.เจอหินข้างทาง เอะใจเป็นพระโบราณ รีบแจ้ง ตร. ผู้เชี่ยวชาญฟันธงอายุกว่า 1,200 ปี
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ สภ.เมืองนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดี 4 ราย ได้แก่ นายวรเชษฐ ศรีสุบาล นางสาวอาริญญา กันธิโน นายธนาวัช ป้องแก้ว และนายภัทรศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง บัณฑิตวิทยาลัยเพาะช่างและนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร ว่ามีการพบพระพุทธรูปหินบริเวณข้างทางใกล้วัดพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม คาดว่าเป็นโบราณวัตถุ ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและนำไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยพลเมืองดีช่วยกันยกขึ้นรถกระบะไปเก็บรักษายัง สภ.เมืองนครปฐม ชั่วคราว
นางสาวอาริญญากล่าวว่า พวกตนขับรถยนต์ผ่านบริเวณจุดตัดทางรถรถไฟใกล้วัดพระงาม สังเกตเห็นก้อนหินมีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปหันหลัง ตั้งอยู่ริมถนนใกล้ทางรถไฟ โดยมั่นใจว่าเป็นโบราณวัตถุ เนื่องจากบริเวณที่พบใกล้แหล่งโบราณคดีสมัยทวารวดี จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“รู้เลยว่าเป็นโบราณวัตถุยุคทวารวดีแน่ๆ ด้วยสภาพพื้นที่ จึงได้ไปถามลุงที่อยู่ตรงนั้นแกพูดว่า เห็นเป็นหินสวยดี ยกมาตั้งไว้กะว่าจะเอามาเขียนป้าย นานหลายสัปดาห์แล้ว พวกเราบอกให้ลุงติดต่อตำรวจให้มาตรวจสอบ แต่ลุงยังไม่แจ้งจะรอเก็บไว้ก่อน พวกเราเลยตัดสินใจแจ้งเองเพราะกลัวมีใครเอาไป เพราะอย่างที่เห็นว่าอยู่ในที่โล่งแจ้งเกินไป” นางสาวอาริญญากล่าว
นายธัชชัย ยอดพิชัย ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม กล่าวว่า เท่าที่ดูจากภาพ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปในศิลปะทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือกว่า 1,200 ปีมาแล้ว คาดว่าเป็นพระพุทธรูปนาคปรก เนื่องจากบริเวณฐานมีร่องรอยการสลักเป็นลวดลายคล้ายเกล็ด แต่น่าเสียดายที่เศียรหักหายไป เบื้องต้นเป็นไปได้ว่าอาจเกิดความเสียหายจากการรบกวนโดยกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การพัฒนาเส้นทางรถไฟมากกว่าถูกตัดเศียรโดยเจตนา
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีการนำส่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ต่อไปในวันพรุ่งนี้