ศธ.-สธ.จัดทีมลงพื้นที่คุมเข้มหลังน.ร.-ครูติดโควิด

ศธ.-สธ.จัดทีมลงพื้นที่คุมเข้มหลังน.ร.-ครูติดโควิด

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือกับ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อหารือผลการดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า หลังเปิดภาคเรียนมาได้ 5 วัน พบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ในหลายจังหวัด สถานการณ์แพร่ระบาดส่วนใหญ่พบว่า ผู้ปกครองนำมาติดนักเรียน ซึ่งโรงเรียนหลายแห่งมีความระมัดระวัง โรงเรียนที่เปิดสอนในโรงเรียนซึ่งมีจำนวนไม่มาก ก็ประกาศหยุดการเรียนการสอน ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการเพิ่มขึ้นเติม ศธ.และสธ.จะต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบติดตาม การดำเนินการตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังของกรมอนามัย เพื่อดูว่าแต่ละโรงเรียนได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังของกรมอนามัยหรือไม่ จากนั้นจะต้องสร้างความเข้าใจและเพื่อหามาตรการป้องกันต่อไป
“การเปิดเทอม 5 วันที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งครูและนักเรียนติดโควิดเพิ่ม แต่สิ่งที่ยังไม่เห็นชัดคือ ชักเรียนติดกับนักเรียน มีแต่นักเรียนติดจากผู้ปกครอง จากการสัมผัสใกล้ชิด ในชุมชน ยังไม่มีการแพร่ระบาดในโรงเรียน” นายสุภัทร กล่าว

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการศธ. กล่าวว่า สิ่งที่ต้องตระหนักเพิ่ม คือ การดำเนินการตามข้อแนะนำ ตามแอปพลิเคชั่นไทยเซฟไทย Thai Save Thai ซึ่งจะมีข้อมูลประเมินความเสี่ยงการแพร่เชื้อให้กับเพื่อนในที่ทำงาน ประเมินความเสี่ยงการแพร่เชื้อ ให้กับคนที่รักในบ้าน ซึ่งจะทำให้เห็นข้อมูลกลุ่มเสี่ยง ที่จะต้องย้ำให้โรงเรียนเฝ้าระวังและปฏิบัติตามอย่างจริงจัง ทั้งนี้น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการศธ. เองก็ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้อ้งกันโควิด-19 ให้ครู โดยขณะนี้ทั่วประเมศ มีครูได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 1 แสนคน ภาพรวมโรงเรียนทุกแห่งค่อนข้างดำเนินการตามมาตรการตามที่กรมอนามัยกำหนด เพียงแต่ต้องมีความเข้มข้นขึ้นจึงต้องมีการออกตรวจสอบร่วมกับสธ.

Advertisement

นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สธ.ร่วมมือกับศธ. เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งก่อนและหลังเปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนเปิดเทอมต้องประเมินโรงเรียนผ่านโครงการไทยสต๊อบโควิด ซึ่งผ่านกว่า ร้อยละ99.6 แต่ก็มีบางโรงเรียนที่ยังไม่ผ่านการประเมิน ส่วนที่สองคือต้องประเมินความพร้อมครูและนักเรียนผ่านไทยเซฟไทย ซึ่งเท่าที่ดูอาจจะยังไม่ครอบคลุม ทำให้ครูและนักเรียนที่มีความเสี่ยงสูงเข้ามาในโรงเรียน แต่ก็สามารถควบคุมไม่ให้มีการระบาดหนักได้ จากนี้ผู้ตรวจราชการของทั้งสองกระทรวงจะร่วมกันลงไปติดตามในพื้นที่ เพื่อดูว่า แต่ละแห่งสามารถปฏิบัติได้ตามแผนการเผชิญเหตุหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image