ศธ. เห็นชอบตั้งศูนย์ CVM 25 แห่ง พัฒนากำลังคนอาชีวะ และขับเคลื่อนสถานศึกษาปลอดภัย

ศธ. เห็นชอบตั้งศูนย์ CVM 25 แห่ง พัฒนากำลังคนอาชีวะ และขับเคลื่อนสถานศึกษาปลอดภัย

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ.) เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการดำเนินงาน (Quick Win)  ด้านความปลอดภัยของผู้เรียน และการขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศอาชีวศึกษา เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานในสังกัดศธ. ต้องเตรียมผู้เรียน ให้มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และการเตรียมผู้เรียนเพื่อเข้าสู่การทำงานทั้งในรูปแบบอิสระ และการเข้าสู่ตลาดงาน รวมไปถึงการจัดเตรียมกำลังคนเพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เมื่อสถานการณ์การลงทุนภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธุรกิจและบริการ กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ขับเคลื่อนนโยบายของศธ. โดยการจัดตั้งศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) จำนวน 25 แห่ง ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ขับเคลื่อนการศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ผู้จบการศึกษาอาชีวศึกษามีอาชีพ และมีรายได้ที่เหมาะสมโดยการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) กรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) รวมถึงมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

น.ส.ตรีนุช  กล่าวต่อไปว่า ศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) มีการจัดกลุ่มสถานศึกษา จำแนกตามสาขาวิชาที่เปิดสอน คัดเลือกสถานศึกษากลุ่มความเป็นเลิศ (Excellent Center) และเชี่ยวชาญเฉพาะที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการในสาขาที่สอดคล้องกับกลุ่มอาชีพ และกลุ่มอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศ โดยการพัฒนาผู้เรียน 9 ใน 10 สาขา อุตสาหกรรมหลักเป้าหมายของประเทศ ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 2 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4 อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ 5 อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร 6 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 7 อุตสาหกรรมขนส่งและการบิน 8 อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ และ 9 อุตสาหกรรมดิจิทัล รวมถึง 1 อุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา ด้วยการยกระดับการเรียนการสอนทั้งระบบ โดยความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การปรับหลักสูตรภาคทฤษฎี และการฝึกปฏิบัติ อุปกรณ์เครื่องมือ ตลอดจน การพัฒนาครูวิชาชีพในสาขาวิชาต่าง ๆ ให้มีทักษะและความ เชี่ยวชาญ

“ซึ่งสอศ.ได้รับความร่วมมือสนับสนุนและดำเนินการผลิต และพัฒนากำลังคน จากคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) ซึ่งเป็นผู้แทนจากภาครัฐ และบริษัทชั้นนำของประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธุรกิจและบริการ ซึ่งมีกลุ่มอาชีพ 28 กลุ่ม ครอบคลุมใน ทุกสายงาน จึงมองว่าจะตอบโจทย์ในการผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพ ให้มีความสอดคล้องตามบริบทเชิงพื้นที่ สร้างกำลังคนคุณภาพของประเทศให้มีเพียงพอ และตรงกับความต้องการกำลังคนของประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และรองรับการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0” น.ส.ตรีนุช กล่าว

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) 25 แห่ง ยังมีอีกบทบาทหน้าที่หนึ่งคือเป็นศูนย์กลางบริหาร ประสานการดูแลความปลอดภัยของสถานศึกษาอาชีวศึกษาในพื้นที่ให้มีความปลอดภัยสูงสุดแก่นักเรียน นักศึกษาเมื่อเข้าเรียนในสถานศึกษาอาชีวศึกษา โดยบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการอาชีวศึกษา เช่น ภาคเอกชน ที่ร่วมจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การฝึกงาน เป็นต้น โดยศูนย์ฯจะมีการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการบริหาร ติดตามในภารกิจต่างๆ และจะมีการเปิดตัวศูนย์ CVM ทั้ง 4 ภูมิภาคต่อไป ในเร็ว ๆ นี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image