เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (231) 成语故事 (二三一)

เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (231) 成语故事 (二三一)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในสัปดาห์นี้คือ 半途而废/半途而廢 bàn tú ér fèi (ป้าน ถู เอ๋อร์ เฟ่ย) คำว่า 半bàn (ป้าน) แปลว่า ครึ่ง 途 tú (ถู) แปลว่า ทาง 废/廢 fèi (เฟ่ย) แปลว่า ทอดทิ้ง เสีย เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง ละทิ้งเสียกลางทาง  การละทิ้งสิ่งที่กำลังทำอยู่แม้ยังไม่สำเร็จ การยกเลิกกลางคัน

คนจีนโดยทั่วไปมีความเชื่อว่า ครอบครัวจะมั่นคง และเจริญได้ก็ต้องอาศัยการนำของหัวหน้าครอบครัว ซึ่งก็คือสามี แต่ก็มีความเชื่ออีกว่า สามีจะได้ดี มีความก้าวหน้า และมีความมั่นคง ก็ต้องได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหลังบ้าน นั่นก็คือภรรยา มีตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันความเชื่อนี้

มีเรื่องเล่าว่า จีนในยุครัฐศึก 战国/戰國 Zhànɡuó จ้านกั๋ว มีขุนศึกคนหนึ่งนามว่า เยว่ หยางจื่อ 乐羊子/樂羊子 Yuè Yánɡzǐ ตอนที่เขายังหนุ่มนั้น ตัวเขาไม่มีความสามารถอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียเลย แต่โชคดีได้ภรรยาดี ชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไรไม่มีบันทึก แต่มีเรื่องว่า หลังจากยว่ หยางจื่อ แต่งเข้าภรรยาคนนี้มาแล้ว ครอบครัวก็ตกลงกันให้เยว่ หยางจื่อ ไปศึกษาหาความรู้จากสำนักวิชาชื่อดังต่างๆ เยว่ หยางจื่อ จึงออกเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้

เวลาผ่านไปหนึ่งปี ภรรยาก็ต้องแปลกใจที่เห็นสามีกลับมา จึงถามว่าทำไมรีบกลับมา หรือว่าเรียนสำเร็จแล้ว เยว่ หยางจื่อ ตอบว่า จากบ้านไปนาน จึงคิดถึงบ้าน จึงกลับมาเยี่ยม ภรรยาไม่ว่ากระไร แต่เข้าบ้านไปหยิบกรรไกรมาหนึ่งเล่ม แล้วจัดการตัดผ้าไหมที่กำลังทออยู่บนกี่ทอผ้า เยว่ หยางจื่อ เห็นก็แปลกใจ จึงถามภรรยาว่าทำไมเจ้าทำเช่นนี้

Advertisement

ที่มาภาพ:https://image.baidu.com/search/detail?ct

ภรรยาจึงอธิบายว่า ผ้าไหมที่ท่านสวมใส่อยู่นี้ ล้วนเกิดจากการปั่นเส้ยใยไหมที่ละเส้น แล้วถักทอเป็นผืนผ้าทีละนิ้วๆ จนกลายเป็นผืนผ้าผืนใหญ่ได้ ตอนนี้ข้าตัดมันทิ้งเสียตั้งแต่เพิ่งทอได้แค่คืบเดียว ท่านคิดว่าผ้านี้จะมีประโยชน์อยู่อีกไหม เยว่ หยางจื่อ ตอบว่า มันก็กลายเป็นเศษผ้าที่หาประโยชน์ไม่ได้ ภรรยาจึงพูดว่า การที่ท่านไปศึกษาเล่าเรียนก็เสมือนการทอผ้า ที่ต้องเริ่มจากสิ่งละเล็กละน้อย ร้อยเรียงสะสมจนเป็นองค์ความรู้รวม ท่านเรียนได้นิดๆ หน่อยๆ แล้วกลับบ้าน เช่นนี้แล้วทำให้เสียเวลา และการเรียนก็ไม่เกิดประโยชน์

Advertisement

เยว่ หยางจื่อ ได้ฟังก็รู้สึกละอายใจ น้ำชายังไม่ทันได้ดื่ม ก็รีบเดินทางกลับไปศึกษาต่อทันที  และตลอดเจ็ดปีที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ เขาก็ไม่เคยลากลับบ้านอีกเลย จนสำเร็จการศึกษา และสอบได้เป็นขุนนางในรัฐเว่ย 魏国/魏國 Wèi Guó เว่ยกั๋ว ได้สำเร็จ และต่อมาเขาก็คือแม่ทัพไปบุกโจมตีรัฐเล็กๆ ข้างเคียงได้อีกหลายรัฐ กลายเป็นขุนนางที่มีชื่อแห่งรัฐเว่ยในยุคนั้นเลยทีเดียว

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:做事不能坚持到底,中间放弃,导致有始无终。

成語比喻:做事不能堅持到底,中間放棄,導致有始無終。

Chénɡyǔ bǐyù: Zuòshì bùnénɡ jiānchí dàodǐ, zhōnɡjiān fànɡqì, dǎozhì yǒushǐwúzhōnɡ.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่:  จั้วฉื้อ ปู้เหนิง เจียนฉือ เต้าตี่, จงเจียน ฟ่างชี่, ต่าวจื้อ โหย่วฉืออู๋โจง

สุภาษิตเปรียบว่า ทำการสิ่งใดแล้วไม่อาจยืนหยัดให้ถึงที่สุด ละทิ้งระหว่างทาง ส่งผลให้มีแต่การเริ่มต้นแต่ไร้จุดสิ้นสุด

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

想要作为一名成功的人,自己的目标决不能半途而废。

想要作為一名成功的人,自己的目標決不能半途而廢。

Xiǎnɡ yào zuòwéi yī mínɡ chénɡɡōnɡ de rén, zìjǐ de mùbiāo jué bùnénɡ bàntú’érfèi.

เสี่ยงเหย้า จั้วเหว่ย อี หมิง เฉิงกง เตอะ เหริน, จื้อจี่ เตอะ มู่เปียว เจว๋ ปู้เหนิง ป้าน ถู เอ๋อร์ เฟ่ย

อยากเป็นผู้ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง เป้าหมายของตนเองต้องไม่ละทิ้งระหว่างทาง

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image