วันที่ 30 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดสลักเหนือ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังมีประกาศเตือนจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยระบุว่า กอนช. ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่าจะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ร่วมกับการตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่ง และพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,700 ลบ.ม/วินาที
ประกอบกับมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900 – 1,200 ลบ.ม/วินาที โดยจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1 เมตร 20 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร 40 เซนติเมตร และท้ายเขื่อนพระรามหกเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 2 เมตร 30 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร 80 เซนติเมตร ในช่วงระหว่างวันที่ 1-5 ตุลาคม 2564
โดยจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังทั้ง 9 จังหวัดมีดังนี้
จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.ลพบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประชาชนต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไปไว้ที่สูง หากมีผู้สูงอายุควรดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีโรคประจำตัวควรมีการเตรียมยาหรือติดต่อรพ.ที่ทำการรักษา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนวัดสลักเหนือ ต.บางใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่คาดว่าจะท่วมหลังมีการปล่อยน้ำออกจากจากเขื่อนเจ้าพระยา โดยทาง นายภิญโญ นิลบ่อ ผอ.โรงเรียนวัดสลักเหนือได้ประสานงานกับทางเทศบาลนครปากเกร็ดเพื่อรับมือ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศบาลพร้อมรถขุดเข้ามาเพื่อทำคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเข้าบริเวณโรงเรียนโดยรอบ และนำกระสอบทรายมากรอกเตรียมไว้ เพื่อนำไปวางกั้นในจุดที่สุ่มเสี่ยง
ขณะที่ชุมชนวัดโพธิ์บ้านอ้อย ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นชุมชนที่อยู่ติดริมน้ำ ทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้ ทำเเนวคันดินบล็อกกั้นน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และในขณะนี้น้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มมีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นสูงบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำยกของขึ้นที่สูง คาดว่าวันนี้มวลน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา
