‘เลขาฯ กช.’ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ร.ร.เอกชน ย้ำหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าดูแลช่วยเหลือเต็มที่

‘เลขาฯ กช.ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ..เอกชน ย้ำหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าดูแลช่วยเหลือเต็มที่

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายพีรศักดิ์ รัตนะ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.สิงห์บุรีและ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยคณะทำงาน โดยมีนายวัชระ อันโยธา รองศึกษาธิการ (ศธจ.) สิงห์บุรี นางสำเนา พงษ์อารีย์ รองศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางทัศนีย์ เอี่ยมลออ ประธาน ปส.กช. จังหวัดสิงห์บุรี นางฉันทนา เปียทอง ประธาน ปส.กช. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานการณ์ในพื้นที่

นายพีรศักดิ์กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. มีความห่วงใยคณะครูและนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงได้มอบหมายให้ตนและคณะ ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ พร้อมให้ความช่วยเหลือ ผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซึ่งในวันนี้ตน พร้อมคณะทำงานได้ลงพื้นที่ในจังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือให้แก่โรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ จำนวน 6 โรงเรียน

สำหรับ จ.สิงห์บุรีได้เข้าตรวจเยี่ยมฯ โรงเรียนพระกุมารเยซู สิงห์บุรี เป็นลำดับแรก ขณะนี้พบว่ายังมีน้ำท่วมขังภายในบริเวณโรงเรียนทั้งภายในบริเวณตึกเรียน และบริเวณโดยรอบ ซึ่งมวลน้ำท่วมดังกล่าวเกิดจากปริมาณน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่ในจังหวัดสิงห์บุรี ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน แต่ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระบบน้ำประปาในพื้นที่ใช้การไม่ได้ส่งผลให้ทางโรงเรียนไม่มีน้ำดื่มและน้ำใช้อย่างเพียงพอ ตนได้กำชับให้ ศธจ.สิงห์บุรี และโรงเรียนดูแลเด็กนักเรียน คณะครู และบุคลากรในโรงเรียนอย่างเต็มที่นายพีรศักดิ์กล่าว

เลขาธิการ กช.กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ คณะทำงานได้เดินทางไปยังโรงเรียนสามัคคีวิทยา และโรงเรียนศรีอุดมวิทยา โดยทั้ง 2 โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนประเภทพักนอนสำหรับเด็กด้อยโอกาสที่ผู้ปกครองได้ฝากเด็กไว้สำหรับเรียน และพักนอนภายในโรงเรียนเลย โดยผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งสองแห่งได้รายงานว่า เนื่องจากสถานที่ของโรงเรียนอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้โรงเรียนเกิดน้ำท่วมได้ง่าย และมีท่าทีว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงอยู่ตลอดเวลา และโดยปกติแล้วนักเรียน และคณะครูจะใช้โรงเรียนเป็นสถานที่พำนัก จึงทำให้ทางโรงเรียนยังคงต้องติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา

Advertisement

นายพีรศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนอิสลามศรีอยุธยามูลนิธิ อำเภอพระนครศรีอยุธยา .พระนครศรีอยุธยา เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทางโรงเรียนจึงได้รับผลกระทบเป็นลำดับต้น แต่ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว เหลือเพียงน้ำขังในบริเวณห้องเรียนที่อยู่ชั้นแรกเท่านั้น แต่ทางโรงเรียนก็จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้พร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image