สพฐ.ออกแนวปฏิบัติให้ ร.ร.เตรียมการก่อนเปิดเทอม 1 พ.ย.

สพฐ.ออกแนวปฏิบัติให้ ร.ร.เตรียมการก่อนเปิดเทอม 1 พ.ย.

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พฤศจิกายน ในรูปแบบ On Site ให้ได้มากที่สุด ซึ่ง สพฐ.กำหนดว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะให้โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนปกติ ส่วนโรงเรียนจะเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ได้มากน้อยแค่ไหนนั้น สพฐ.ได้ออกแนวปฏิบัติการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน โดยให้โรงเรียนดูองค์ประกอบ 6 ประการ ดังนั้น 1.ประเมินตนเองในระบบ Thai Dtop Covid Plus (TSC+) ผ่านระดับสีเขียว จึงสามารถยื่นขออนุญาตเปิดเรียนแบบ On Site 2.ครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับวัคซีนมากกว่า 85% 3.นักเรียนและผู้ปกครองต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด 4.สถานศึกษานำผลการประเมินตนเองเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เปิดเรียน

นายอัมพรกล่าวต่อว่า 5.เมื่อคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดอนุมัติให้เปิดเรียน สถานศึกษาต้องปฏิบัติตาม 6 มาตราหลัก คือ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน ล้างมือบ่อยๆ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ลดการแออัด ลดการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ให้เข้าพื้นที่เสี่ยง และ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม นอกจากนี้ ต้องปฏิบัติ 6 มาตรการเสริม คือ Self-care ดูแลเอาใจใส่ ปฏิบัติ มีวินัย รับผิดชอบตนเอง และปฏิบัติตามมาตรอย่างเคร่งครัด Spoon ใช้ช้อนส่วนตัว เมื่อกินอาหาร Eating กินอาหารปรุงสุก Track ลงทะเบียบเข้า-ออกโรงเรียน Check สำรวจตรวจสอบบุคคล นักเรียน และกลุ่มเสี่ยง ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง Quarantine กักตัวเอง 14 วัน เมื่อเข้าสัมผัสหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาด และปฏิบัติตาม 7 มาตรการเข้มงวด คือ ประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID จัดกิจกรรมรูปแบบ Small Bubble จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ ด้านอนามัpสิ่งแวดล้อมต้องเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่ การระบายกาศกาศภายในอาคาร การทำความสะอาด เป็นต้น จัด School Isolation มีแผนเผชิญเหตุและมีการซักซ้อม ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน และจัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา อย่างเคร่งครัด และ 6.สถานศึกษารายงานผลการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

“สรุปคือ สพฐ.จะไม่ยึดจังหวัดเป็นฐาน แต่ใช้พื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน อำเภอเป็นฐานในการพิจารณาเปิดเรียน On Site ดังนั้น ใน 1 จังหวัด ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพร้อมกันในทุกโรงเรียน โรงเรียนไหนพร้อมก่อน มีมาตรการควบคุมโรคที่ดี ก็สามารถเปิดเรียนก่อนได้ และโรงเรียนอื่นสามารถทยอยเปิดตามหลัง เชื่อว่าหากเรามีต้นแบบ มีมาตรการที่เพียงพอ ก็สามารถเปิดเรียน On Site ได้ครบทุกโรงเรียน” นายอัมพรกล่าว

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า แม้จะเปิดเรียน On Site แล้วก็ตาม คำถามที่ตามมาคือ จะสร้างความเชื่อมั่นในการเปิดเรียนอย่างไร เพราะโรงเรียนในสังกัด สพฐ.มีหลายขนาดทั้งโรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีจำนวนนักเรียนแตกต่างกัน สพฐ.ได้กำหนดมาตรการเบื้องต้นในการเปิดเรียน On Site คือ นักเรียนไม่เกิน 25 คน/ห้องเรียน ถ้าห้องเรียนหนึ่งมีจำนวนนักเรียนเกิน 25 คน โรงเรียนอาจจะให้นักเรียนสลับวันคู่ วันคี่ มาเรียนได้ นอกจากนี้ ตนมอบหมายให้โรงเรียนสำรวจความพร้อมของผู้ปกครอง และนักเรียน ว่ามีความพร้อมที่จะเข้ามาเรียน On Site หรือไม่ เพื่อให้โรงเรียนวางแผนจัดการเรียนการสอนตามความต้องการของนักเรียนได้ ดังนั้น แม้โรงเรียนเปิดเรียน On Site แต่ผู้ปกครองและนักเรียนไม่ต้องการมาเรียนในโรงเรียน เพราะยังกังวลเรื่องของโควิด-19 อยู่ โรงเรียนก็สามารถจัดการเรียนการสอนรูปแบบอื่นให้กับนักเรียนได้ เช่น เรียนออนไลน์ เรียนออนแฮนด์ เป็นต้น

Advertisement

“วันนี้โรงเรียนส่วนใหญ่มีความพร้อมที่จะเปิดเรียน On Site ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ส่วนจะเปิดเรียนได้หรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาว่าโรงเรียนควรจะเปิด On Site วันใด จากที่ผมได้รับรายงานมา มีบางจังหวัดที่คณะกรรมการโรคติดต่ออนุมัติให้เปิดวันที่ 1 พฤศจิกายน และมีบางจังหวัดที่คณะกรรมการโรคติดต่อ พิจารณาให้โรงเรียนเปิดวันที่เรียน On Site วันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะแถลงความพร้อมในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ซึ่งจะมีรายละเอียดมาตรการต่างๆ และจำนวนโรงเรียนที่มีความพร้อมเปิด On Site ในวันที่ 1 พฤศจิกายน” นายอัมพรกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image