มึน!ย้ายผอ.รร.แฝดมากสุดในโลกก่อนเกษียณ 3 วัน คนใหม่อ้าง ผิดระเบียบมาแต่แรก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 28 กันยายน หลังเคารพธงชาติที่ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นโรงเรียนตกเป็นข่าวฮือฮา มีนักเรียนคู่แฝดมากที่สุดในโลกถึง 29 คู่ คณะครูอาจารย์ของโรงเรียน ได้มารวมตัวที่หน้าห้องทำงานของ นายสุรพล สุขประเสริฐ ผอ.โรงเรียนฯ พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ หลังจากที่คณะกรรมการศึกษาธิการ (กศจ.) อุดรธานี มีมติให้โยกย้าย นายสุรพลฯ ไปเป็น ผอ.โรงเรียนบ้านคำกลิ้ง อ.เมือง และให้ นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านตาด อ.เมือง ย้ายมาเป็น ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง โดยทั้ง 2 ท่าน จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้ หรือเหลือเวลาทำงานอีกเพียงอีก 3 วันเท่านั้น

คณะครูอาจารย์มาร่วมให้กำลังใจ แม้ยังคงรอคำสั่งของ นายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่ยังไม่ลงนามในคำสั่ง โดยได้ขอให้นายสุรพลฯ อยู่ในตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไปก่อน โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ครูอาจารย์-นักเรียน จะร่วมกันแสดงมุทิตาจิต และนักเรียน 900 คน จะรำอวยพรหน้าเสาธง เพราะนายสุรพลฯได้สร้างคุณูปการแก่โรงเรียนมากมาย ติดต่อกันยาวนานกว่า 6 ปี และอยากให้ทบทวนการออกคำสั่งย้ายครั้งนี้ด้วย

นายสุรพลฯ ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เปิดเผยว่า ได้ยินจากเพื่อนครูว่ามีคำสั่งย้ายตน ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการเพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งการย้ายผู้บริหารโรงเรียนที่ความจริงต้องมี 2 องค์ประกอบ คือ การประเมินผลผู้ปฏิบัติงาน ที่จะต้องนำผลงานของแต่ละปีมาประเมิน และการย้ายตามกฎหมาย พรบ.ครู มาตรา 59 ที่ผู้ที่จะย้ายเข้ามาโรงเรียนใด ต้องให้กรรมการสถานศึกษาเห็นชอบ ว่าต้องการให้ใครมาบริหารโรงเรียน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโรงเรียน โดยต้องนำ 2 ส่วนนี้มาพิจารณา

“ อายุราชการผมอีกเพียง 2 วัน แต่ต้องมาถูกคำสั่งย้าย เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ก็อาจเป็นไปได้ หากมีกรณีเรื่องร้ายแรง แต่ผมไม่สบายใจว่าที่ย้ายผม ได้นำข้อมูลไปพิจารณารอบคอบหรือยัง ตาม พรบ.ครู มาตรา 59 ที่ระบุว่า ผู้ที่จะย้ายมาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ต้องให้กรรมการสถานศึกษาเห็นชอบ แต่ผู้ที่จะย้ายมากรรมการสถานศึกษาไม่เห็นชอบ ผมยอมรับสิ่งที่ผู้ใหญ่พิจารณา แต่ขอทราบว่าท่านพิจารณา โดยได้ข้อมูลถ่องแท้หรือยัง ที่ผ่านมาผมอยู่ที่โรงเรียนนี้ 6 ปี และอีก 3 วันจะเกษียณแล้ว มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกไหม หากมีคำสั่งมาจะมีผลอย่างไรก็ตาม แต่ผมจะทำหน้าที่ที่โรงเรียนนี้จนถึง 30 ก.ย.”

Advertisement

ด้าน นายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี และ ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งจะเกษียณราชการในปีนี้เช่นกัน เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนทางธุรการ และช่วงนี้ตนต้องไปร่วมงานเกษียณอายุราชการต่าง ๆ ซึ่งตนก็จะเกษียณด้วย จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ขอให้ไปสัมภาษณ์นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี ซึ่งมีฐานะเป็นประธานกรรมการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่พิจารณาเรื่องนี้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อจะขอสัมภาษณ์นายชยาวุธฯ ผวจ.อุดรธานี แต่ติดภารกิจติดตามองคมนตรี ที่มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.บ้านดุง รวมทั้งไม่สามารถติดต่อ นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ว่าที่ ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ได้ แต่กลับมีแถลงการณ์ของนายพยัคฆ์ฯ ลงวันที่ 28 กันยายน 59 ออกแจกจ่ายรวมทั้งส่งทาง “สื่อออนไลน์” ระบุความเป็นมาและข้อเท็จจริง การได้รับแต่งตั้งเป็น ผอ.รร.บ้านหมากแข้ง ก่อนเกษียณอายุ 3 วัน 1.เกิดจากการย้ายผู้บริหารตามคำขอปี 53 ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ , 2. คกก.ประเมินขอย้ายให้ตนได้คะแนนสูงสุด แต่กลับให้บุคคลอื่นส่งเอกสารเพิ่มเติม

3.อกคศ.เขต มีมติลับให้บุคคลที่เคยมีคะแนนต่ำกว่า มาดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง (8 ธ.ค.53) , 4. กคศ.ได้มีมติให้เพิกถอนมติ การแต่งตั้ง ผอ.รร.บ้านหมากแข้ง 3 ครั้ง ตามหนังสือลับ ครั้งที่หนึ่ง 21 ม.ค.56 ครั้งที่สอง 14 พ.ค.58 และครั้งที่สาม 13 ก.ย.59 มติและคำวินิจฉัยของ กคศ.ครั้งที่ 3 ระบุเพิ่มเติมอย่างชัดเจนว่า การโยกย้าย ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายผู้บริหาร จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ถอนมติและคำสั่งแต่งตั้ง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผอ.พยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ได้รับความเป็นธรรมถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนเกษียณอายุราชการเพียง 3 วัน….

Advertisement

201609281519152-20021028190339

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image