‘พิษณุ’ตั้ง 2 รองเลขาธิการสกสค. เผย 5 ผอ.สกสค.จังหวัดตกประเมิน ต้องเลิกจ้างก่อนหมดสัญญา

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล สกสค.มีมติเห็นชอบให้จ้างนายวิวัฒน์ อ้นน่วม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) พิษณุโลก เขต 2 และนายธำรงค์ น่วมศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ เป็นรองเลขาธิการ สกสค.ซึ่งในส่วนของนายวิวัฒน์ ได้มาลงนามในสัญญาจ้างเรียบร้อยแล้ว ส่วนนายธำรงค์ จะต้องลาออกจากการเป็นข้าราชการก่อนและจะมาลงนามในสัญญาจ้างเพื่อเริ่มงานในวันที่ 7 ตุลาคมนี้

ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดและกรุงเทพมหานคร จำนวน 74 จังหวัด โดยมีจังหวัดที่ผ่านการประเมินในระดับดีมาก 37 จังหวัด ผ่านการประเมินระดับดี 32 จังหวัดและไม่ผ่านการประเมิน 5 จังหวัด ในจำนวนที่ไม่ผ่านการประเมิน แบ่งเป็น ภาคกลาง 2 จังหวัด ภาคเหนือ 2 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด ส่วนอีก 3 จังหวัดไม่ต้องประเมินเพราะไม่มีผู้อำนวยการสกสค.จังหวัด อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการสกสค.จังหวัดทั้งหมดจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะต้องสรรหาใหม่ทั้งหมด แต่ผู้อำนวยการสกสค.ทั้ง 5 จังหวัดที่ไม่ผ่านการประเมินจะต้องถูกเลิกจ้างก่อนตามสัญญาที่ได้ระบุไว้

“ผมได้แบ่งงานในสกสค.ให้แก่รองเลขาธิการ สกสค.ดังนี้ นายวิวัฒน์ ดูแลงานบุคคล งานกฎหมาย งานแผนและยุทธศาสตร์ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครู ส่วนนายธำรงค์ ดูแลสำนักอำนวยการ สำนักการคลัง สำนักสวัสดิการและกองทุนต่าง ๆ โดยภายใน 1 เดือนนี้ผมจะเร่งดำเนินการใน 4 เรื่อง คือ 1.สรุปแนวทางการดำเนินคดีกับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัดและการดำเนินการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี คืนจากธนาคารธนชาตให้กับสกสค. เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการอนุมัติ ปิดบัญชี และเบิกถอนเงินของ สกสค.ที่ฝากไว้ไม่ถูกต้อง และการดำเนินการทางวินัยกับบุคคลากรของสกสค.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว 2.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องเนื่องจากนายอนันต์ ระงับทุกข์ อดีตผู้ตรวจราชการ ศธ.ซึ่งเป็นประธานเกษียณอายุราชการแต่ระเบียบของ สกสค.กำหนดว่าประธานคณะกรรมการฯ ต้องเป็นข้าราชการพลเรือนไม่ต่ำกว่าระดับ10 ดังนั้นจึงต้องทาบทามคนใหม่เข้ามาเป็นประธานกรรมการแทน 3.กรณี สกสค.ซื้อหุ้นบริษัท หนองคายน่าอยู่ ในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท และ4.สรุปผลการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์จากที่ดินของกรมธนารักษ์ที่จ.เชียงใหม่ ว่าควรนำมาดำเนินการเรื่องใดเพื่อจะใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า” นายพิษณุกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image