กลุ่ม น.ร.บุก ก.อุดมฯ จี้ตรวจสอบการทำงาน ‘ทปอ.’ ชี้เด็กทุกคนควรได้รับโอกาสสอบทีแคส

กลุ่ม น.ร.บุก อว.จี้ตรวจสอบการทำงาน ‘ทปอ.’ ชี้เด็กทุกคนควรได้รับโอกาสสอบทีแคส

เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย หรือ RSE ทีม มศว (ไม่มีจุด) กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มเยาวชนปฏิวัติ ตัวแทนจากองค์กร Feminist FooFoo (เฟมฟู) กลุ่มเกียมอุดมไม่เอาเผด็จการ และคณะกว่า 15 คน ยื่นหนังสือถึงนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการ อว. เพื่อตรวจสอบการทำงานของ ทปอ.ที่ดูแลระบบกลางคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ปีการศึกษา 2565 หามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมีมาตรการจัดสอบสำหรับนักเรียนที่ติดโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่ ทปอ.มารับเรื่องแทน

ตัวแทนกลุ่มเยาวชนปฏิวัติกล่าวว่า ทางกลุ่มมายื่นหนังสือเรียกร้องให้ปรับปรุง 2 เรื่อง คือ 1.การตอบคำถามของแอดมินเพจ ทปอ.และ 2.ขอมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างปลอดภัยที่สุดสำหรับการสอบของเด็ก เนื่องจากกลุ่มเยาวชนปฏิวัติได้ทราบข่าวเรื่องการตอบคำถามของทาง ทปอ. มีลักษณะการตอบคำถามด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างไม่สุภาพ ดูเป็นการผลักภาระให้เด็กมากกว่าการแก้ปัญหา เป็นการตัดอนาคตเด็กทิ้งไป ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน นอกจากนั้น ยังมีเชื้อใหม่ๆ ระบาดอีก ซึ่งทางกลุ่มเห็นว่าทาง ทปอ.นั้นควรจะตรวจสอบปรับปรุงการทำงานของแอดมินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคนในองค์กรให้มีมารยาทกว่านี้ โดยทาง ทปอ.นั้นก็ต้องจัดมาตรการที่รัดกุมและปลอคภัยให้ผู้ที่ติดเชื้อหรือผู้ที่ต้องกักตัวเพื่อความเท่าเทียมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกระตือรือร้น ในหน้าที่ของตัวองค์กรเอง เด็กทุกคนเสียเงินทั้งหมดถึงจะยุ่งยากแค่ไหน มันคือหน้าที่ ไม่ควรปัดภาระให้กับเด็ก และอย่าล้อเล่นกับอนาคตเด็ก

“ดังนั้น ทางเราขอให้ทาง ทปอ. รีบดำเนินการแก้ไขตามข้อเรียกร้องเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดต่อหน้าที่ อยากให้เล็งเห็นถึงความสำคัญกับการศึกษาเพราะเด็กทุกคนมีความฝันโปรดอย่าล้อเล่นกับพวกเขาเลย และมาตรการจัดการโควิด-19 ในสนามสอบนั้นขอให้มีความปลอดภัยและจัดสนามสอบให้ผู้ที่ติดเชื้อและผู้ที่กักตัว เด็กไม่ได้อยากจะติดโควิด แม้เด็กสะท้อนว่าอยากให้สร้างสนามสอบในโรงพยาบาลสนาม ทปอ.ก็ตอบว่าไม่คิดจะทำ ซึ่งไม่สอดคล้องกับองค์กรที่ทำเพื่อการศึกษา มองว่า ทปอ.กำลังผลักภาระให้เด็ก จัดสอบเพื่อความสะดวกของตนเอง ไม่ได้คิดถึงประโยชน์ของเด็กเป็นที่ตั้ง” ตัวแทนกลุ่มปฏิวัติกล่าว

ตัวแทนองค์กรเฟมฟูกล่าวว่า ตนเป็นเด็ก 65 ที่จะเข้าระบบทีแคสในปีนี้ จากที่เห็นแอดมินตอบคำถามเด็กแล้วรู้สึกไม่โอเคมากๆ เพราะที่ผ่านมาสังคมคาดหวังให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่ดี เป็นอนาคตของชาติ แต่ระหว่างทาง ทปอ. สนับสนุนเด็กด้วยคำพูดเหล่านี้หรือ ส่วนตัวเห็นการตอบคำถามของ ทปอ.แล้วรู้สึกเจ็บปวด ตัวอย่างที่ ทปอ.ตอบคำถาม เช่น ค่าสมัครสอบทีแคสไม่แพงเลย พร้อมบอกว่าการเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อพร้อมเท่านั้น เป็นต้น บางคนไม่ได้ออกจากบ้าน แต่ติดโควิด ซึ่งเด็กเหล่านี้เตรียมสอบมาทั้งชีวิต ทำไมเด็กต้องเสียโอกาสชีวิตไปด้วย อยากเรียกร้องให้ อว.และ ทปอ.มีความละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ ถ้าทำงานเกี่ยวกับการศึกษา ควรจะตระหนักเรื่องเด็กและการศึกษาให้มากขึ้น

Advertisement

ด้านตัวแทนนักเรียนเลวกล่าวว่า จากกรณีที่แอดมิน ทปอ.ตอบคำถามไม่เหมาะสม แสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ หน้าที่ของ ทปอ.ควรช่วยนักเรียนทุกคน การที่เด็กติดโควิด-19 แล้วต้องสละสิทธิไม่สอบ ทำให้เด็กเสียเวลาอีก 1 ปี เสียอนาคต และ ทปอ. แทบจะไม่ได้แก้ไขอะไร ทำเหมือนอนาคตเด็กเป็นเรื่องเล่น ทั้งที่เด็กมีค่าใช้จ่ายในการสอบสูงมาก ขอให้ ทปอ.ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีกว่านี้ และคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กให้มาก

ตัวแทนกลุ่มเกียมอุดมไม่เอาเผด็จการ กล่าวว่า ปัจจุบันการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ใช่แต่เรื่องความรับผิดชอบต่อตนเอง และผู้อื่นเท่านั้น คนที่ออกไปข้างนอก คนที่อยู่บ้านเฉยๆ นั่งเรียนออนไลน์ ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 เหมือนกัน จึงขอเสนอว่า ทปอ.ควรที่จะประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้แต่ละจังหวัด จัดสถานที่ 1 แห่ง อาจจะเป็นในอำเภอเมือง เพื่อเป็นให้เด็กที่ติดโควิด-19 สามารถเข้าสอบทีแคสได้และขอให้ทปอ.คิดและเข้าใจเด็กทุกคน ขอให้มีวิสัยทัศน์ ออกนโยบายเพื่อให้เด็กได้รับโอกาสอย่างที่ควรจะมี อีกทั้งค่าสมัครสอบ GAT และ PAT และ 9 วิชาสามัญ แพงมาก ถ้านำค่าสอบมารวมกันแล้ว เด็กต้องเสียค่าสมัครสอบมากกว่า 1,000 บาท เงินหลักพันเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ทปอ.ควรระลึกตลอดเวลาว่า ทปอ.เป็นองค์กรที่ต้องแบกรับอนาคตของนักเรียน อยากให้ ทปอ.ลงมาดูปัญหาการศึกษา มีหัวใจ มีความคิดที่จะช่วยเหลือนักเรียนทุกคนจริงๆ

ตัวแทนนักเรียนกล่าวว่า ตนเป็นเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ถูกสังคมมองว่าไม่เก่ง แต่ตนมองว่าระบบการศึกษาไม่เอื้อต่อเด็ก รัฐบางไม่เห็นคุณค่าความเป็นคนเท่ากัน ไม่สามารถให้การศึกษาเท่าเทียมกันได้ เด็กต่างจังหวัดเข้าถึงความรู้ยากกว่าเด็กกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระบบการศึกษาไม่เอื้อความหลากหลาย ไม่เอื้อให้เด็กทำให้สิ่งที่ชอบ ให้เด็กเรียนในสิ่งที่ไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ อยากให้เปลี่ยนระบบตั้งแต่การเรียนรู้ในโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ชอบ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นกลุ่มนักเรียนได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยโปรยกระดาษที่พรินต์คำตอบที่แอดมินตอบคำถามนักเรียน เพื่อให้ ทปอ.ตระหนักรู้ถึงปัญหาและเร่งทำการแก้ไขต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image