ศึกษาธิการอุทัยธานีเผยอยู่ระหว่างตั้งคณะสอบทั้งครูชายและครูหญิง กรณีเสื้อซับในและแชตคุกคามทางเพศ ด้านนักเรียนเปิดใจ เรื่องแบบนี้ไม่ควรอยู่ที่การตัดสินใจของโรงเรียน แต่ควรเป็นสิทธิของผู้เสียหาย เด็กมีความรู้สึก มีความคิด ผู้ใหญ่ไม่ควรมาลงทุกอย่างกับเด็กแบบนี้
จากกรณีที่วานนี้ (8 กุมภาพันธ์) มีครูผู้หญิงของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองอุทัยธานี ลงโทษเด็กนักเรียนหญิงที่ไม่ใส่เสื้อซับในมาโรงเรียนด้วยการให้เพื่อนนักเรียนชายมองที่หน้าอก จนกลายกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยผู้เผยเรื่องดังกล่าวระบุผ่าน #โรงเรียนประจำจังหวัดสีเหลืองแดง ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีเหตุการณ์ที่ครูผู้ชายส่งข้อความคุกคามทางเพศนักเรียนหญิงด้วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายรณชัย ทัดช่อม่วง ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) อุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวได้ประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อสอบถามว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่ง ผอ.รายงานให้ทราบว่ามีกรณีที่ครูที่ปรึกษาได้ตรวจการแต่งกายเด็ก ตั้งแต่ทรงผม เล็บ สุขภาพต่างๆ กระทั่งพบว่ามีนักเรียนหญิงไม่ได้ใส่เสื้อซับในมาโรงเรียน จึงลงโทษด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ด้วยการเรียกเพื่อนนักเรียนชายที่อยู่นั่งอยู่ข้างๆ มาถามและชี้ให้ดูว่าเพื่อนใส่แบบนี้เหมาะสมหรือไม่
นายรณชัยกล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้บริหารโรงเรียนไปพบผู้ปกครอง พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเด็ก ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนและฝ่ายบริหารได้ดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.พ. พบว่าไม่อยากให้ครูลงโทษด้วยวิธีการแบบนั้น ซึ่งทางโรงเรียนยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุจริง คุณครูเองก็ยอมรับว่าที่ทำไปด้วยความเป็นห่วงเรื่องของความเรียบร้อยของนักเรียน ตนได้เตือนให้คุณครูนั้นไตร่ตรองวิธีการลงโทษให้ถี่ถ้วน เพราะครั้งนี้ถือว่าครูใช้วิธีการที่ผิดกับเด็กนักเรียน ในส่วนของคุณครูนั้น ผู้อำนวยการแจ้งให้ทราบว่ากำลังตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง เมื่อหาข้อเท็จจริงแล้วก็ดำเนินการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
“ส่วนแชตของครูผู้ชายโรงเรียนเดียวกันหลุดต่อออกมาอีกในเชิงคุกคามทางเพศนักเรียนหญิงนั้น ได้สอบถามผู้อำนวยการแล้วเช่นกัน ผอ.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงว่าเป็นการแชตระหว่างครูกับเด็กนักเรียนจริงหรือไม่ เบื้องต้นนั้นครูผู้ชายที่ถูกกล่าวหาได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการแชตกับนักเรียนตามที่ถูกกล่าวอ้าง อ้างว่าถูกแฮกเฟซบุ๊ก และได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานีแล้ว เมื่อวันที่ 8 ก.พ.“ นายรณชัยกล่าว
นายรณชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการเยียวยานั้น หน่วยงานของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานีและบ้านพักเด็กจังหวัดอุทัยธานีได้ลงไปติดตามเพื่อดูแลช่วยเหลือคุ้มครองเด็กในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว เบื้องต้นกำลังหาข้อเท็จจริง คาดว่าจะลงไปที่บ้านที่พักของเด็กอีกครั้ง เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ อีกทั้ง ทางกระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงมาตลอดว่าสถานศึกษาจะต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน จะต้องไม่มีภัยคุกคาม จะต้องไม่มีความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นกับเด็ก
“ในฐานะที่เป็นหน่วยประสานงานของกระทรวงศึกษาธิการอยู่ในพื้นที่ ทุกครั้งที่มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษาของเขตพื้นที่ของอาชีวศึกษา ก็จะเน้นย้ำเรื่องนี้ทุกครั้งว่าทุกแห่งต้องช่วยกันควบคุมดูแล อย่าให้เกิดปัญหานี้กับโรงเรียน กับเด็กนักเรียนในพื้นที่อุทัยธานี” นายรณชัยกล่าว
ด้านนักเรียนหญิงรายหนึ่งที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นการคุกคามทางเพศอย่างหนึ่ง ครูคนหนึ่งไม่ควรทำกับเด็กอายุ 14 ปีแบบนี้ เพราะจะทำให้เขาฝังใจ แม้จะมีการขอโทษแล้วก็ตาม เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน และไม่ควรเกิดขึ้นกับที่ไหนเลยด้วย สำหรับการลงโทษครูมองว่าสมควรต้องไล่ออก หรือไม่ก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ครอบครัวของผู้เสียหายด้วย เรื่องนี้ไม่ควรยกให้เป็นการตัดสินใจของโรงเรียน แต่ควรอยู่ที่การตัดสินใจของครอบครัวผู้เสียหายมากกว่า อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสื่อมเสียของโรงเรียนอย่างมาก และอยากจะบอกว่าเด็กก็มีความรู้สึก เด็กก็มีความคิด ผู้ใหญ่ไม่ควรมาลงทุกอย่างกับเด็กแบบนี้
