ทีนส์ทอล์กอาเซียน : เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้อย่างภาคภูมิ

ทีนส์ทอล์กอาเซียน : เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้อย่างภาคภูมิ

ผม นายวชิรวิทย์ Œหาสาฤทธิ์ (ใหญ่) แฝดพี่ ที่ชวน น้องเล็ก นายวสิษฐ์พล หาสาฤทธิ์ และเพื่อนซี้ ฟลุ๊ค นายสุชาครีย์ พงศ์พิริยะจิต นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และการผลิตสื่อสตรีมมิง คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาสาพาไปทำดีกับโครงการเสื้อดำธรรมดีโดยปีนี้เขาจัดเป็นปีที่ 12 โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้จิตวิญญาณความเป็นจิตอาสา การเสริมสร้างคุณค่าความเป็นมนุษย์ สร้างคุณธรรม และจริยธรรม ต้องขอบคุณ อาจารย์อาชวิชญ์ กฤษณสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาบรอดแคสต์ติ้งและวารสารศาสตร์ดิจิทัล ที่ก่อการดีโครงการนี้มาตลอด แถมชักชวนเด็กรุ่นใหม่ให้ได้รับประสบการณ์ดีๆ แบบนี้

พวกเรา 3 คน ได้พบเจอกับพี่ๆ แก๊งเสื้อดำธรรมดี มีทั้งศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน ที่มาจากหลากหลายคณะ และพี่ๆ เครือข่ายจิตอาสา ที่มารวมตัวกันด้วยจุดหมายเดียวกัน ปีนี้พวกเราได้ขึ้นไปที่ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา (ศศช.) บ้านคุทะ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กิจกรรมที่ทำ มีปรับพื้นที่อาคารชำรุดทรุดโทรม ทางทีมพี่ๆ ได้เตรียมอุปกรณ์ใช้วาด ทาสี และเพ้นต์ลายเกี่ยวกับคำสอนของในหลวง ร.9 และมีกิจกรรมสนุกๆ ให้น้องบนดอย

Advertisement

ส่วนเล็กได้เป็นผู้ช่วยพ่อครัว ทำเมนูของโปรดของทุกคน อย่างก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ลูกชิ้นหมูน้ำใส คือเมนูสุดโปรดของที่โน่นมาก ด้วยอากาศหนาวๆ ซดน้ำซุปใสร้อนๆ มันชื่นใจ ตบท้ายด้วยเมนูของหวานอย่างวุ้นกะทิน้ำเขียวน้ำแดงที่เด็กๆ ต่างพากันยกนิ้วให้ เป็นความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ในการสร้างรอยยิ้ม เมื่ออิ่มท้องก็ชวนมาล้อมวงฟังนิทานไฟฉาย

Advertisement

หน้าที่ของฟลุ๊ค ด้วยบนพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง จะมีเพียงโซล่าเซลส์บางครัวเรือนเท่านั้น จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายทีมเสื้อดำธรรมดี ที่อยากจะมีการแสดงในยามค่ำคืนให้กับเด็ก และชาวบ้าน ได้ร่วมสนุก เลยทำนิทานไฟฉาย จากหุ่นกระดาษเล่าเรื่องผ่านเงาหลังม่านฉากสีขาว แสงสว่างจากไฟฉายเพียงไม่กี่ดวง ถ่ายทอดเรื่องราว “พระราชาผู้ทรงธรรม” พระราชประวัติในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยผ่านการเล่าเรื่องประกอบดนตรี และการขับร้องจากพวกเรา 3 หนุ่ม ที่ภูมิใจนำเสนอเรื่องราวของในหลวง ร.9 เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน

จากประสบการณ์ที่พวกเรา 3 หนุ่มได้รับ ไม่เป็นเพียงการมาสร้างความสุขให้น้องๆ แต่เราเองก็ได้ความสุขกลับคืนมาเช่นกัน พี่ชาวบ้านก็มาล้อมรอบกองไฟ ร้องเพลงขอบคุณด้วยภาษาถิ่น “ปกาเกอะญอ” ถึงแม้จะฟังไม่เข้าใจ แต่รับรู้ได้ถึงดนตรี และการถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างสุดซึ้ง

ถือเป็นโครงการจิตอาสา ที่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวบ้านที่อยู่กันด้วยวิถีธรรมชาติ ประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสังคม และคนรอบข้าง กับคนในพื้นที่ห่างไกล เป็นประสบการณ์ที่สร้างความสุข และทำให้อยากกลับมาตอกย้ำความสุขแบบนี้ทุกๆ ปี เพราะทำให้พวกเรา “เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้อย่างภาคภูมิ และเป็นผู้รับอย่างถ่อมตน”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image