เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายบุญเชิด กิติธรางกูร รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้คณะสงฆ์ และวัดทุกวัด ทั้งใน และต่างประเทศ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยเริ่มประกอบพิธีตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นต้นไปนั้น สำหรับวัดที่เป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธี ในเขตกรุงเทพฯ มี 150 วัด ส่วนภูมิภาค 95 วัด แบ่งเป็น หนใต้ 14 วัด หนตะวันออก 24 วัด หนกลาง 22 วัด หนเหนือ 16 วัด ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดชื่อวัดที่ประกอบพธีได้ที่เว็บไซต์ พศ. www.onab.go.th
นายบุญเชิดกล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางประกอบพิธีให้ปฏิบัติดังนี้ 1.จัดโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ (ภาพสี หรือขาวดำ) พร้อมตั้งเครื่องบูชาทองน้อยภายในพระอุโบสถ หรืออุโบสถ หรือสถานที่ที่สมพระเกียรติภายในวัด 2.ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในเวลา 15.52 น.หรือตามเวลาที่เหมาะสมทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 14 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยวัดทุกวัดเป็นเจ้าภาพ และเชิญชวนประชาชนร่วมถวายเป็นพระราชกุศล 3.ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อครบกำหนดสัตตมวาร (7 วัน) ปัญญาสมวาร (50 วัน) และสตมวาร (100 วัน) 4.สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด เมื่อครบสัตตมวาร (7 วัน) ปัญญาสมวาร (50 วัน) และสตมวาร (100 วัน) ให้จัดปฏิบัติธรรมมีกำหนดคราวละ 7 วัน 5.เจริญจิตตภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลหลังทำวัตรสวดมนต์เย็นทุกวัน และ 6.เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมบำเพ็ญบุญด้วยการสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา รักษาศีล ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดระยะเวลา 1 ปี