‘อัมพร’ แจงมติกพฐ. แค่สับสน ยันยังไม่ประกาศใช้หลักสูตรใหม่-ร.ร.ทั่วไปยังใช้ของเดิม

‘อัมพร’ แจงมติกพฐ. แค่สับสน ยังไม่ประกาศใช้หลักสูตรใหม่-ร.ร.ทั่วไปยังใช้ของเดิม หากใช้จริงต้องแจ้งล่วงหน้า 3 ปี  

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานบรรณาธิการกิจ (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. … ระดับประถมศึกษา และ (ร่าง) คู่มือการใช้กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. … ระดับประถมศึกษา ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยกำหนดชื่อหลักสูตรว่า “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. …” หรือ “หลักสูตรแกนกลางฐานสมรรถนะ” และได้เห็นชอบแผนการทดลองใช้ (ร่าง) หลักสูตร โดยปีการศึกษา 2565 ทดลองใช้ในโรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ปีการศึกษา 2566 ทดลองใช้ในโรงเรียนทั่วไปที่พร้อมใช้ และปีการศึกษา 2567 โรงเรียนทั่วประเทศใช้หลักสูตร ประถมศึกษาปีที่ 1 และประถมศึกษาปีที่ 4 นอกจากนี้ คณะกรรมการ กพฐ.ยังได้ขอปรับเวลาในการประกาศใช้หลักสูตรจากเดือนตุลาคม 2566 เป็นตุลาคม 2565 นั้น มติดังกล่าวเป็นเพียงการเห็นชอบกรอบหลักสูตรเท่านั้น ไม่ได้ประกาศใช้ในโรงเรียนทั่วไป ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวทางคณะอนุกรรมการยกร่างหลักสูตรฯได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการพัฒนาหลักสูตรให้ที่ประชุมได้รับทราบ ซึ่งที่ประชุมยืนยันว่าหลักสูตรมีความจำเป็นต้องพัฒนา แต่ระหว่างที่ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ไปก่อน ส่วนหลักสูตรที่จะพัฒนาใหม่ ให้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมตามที่ตกลงไว้เช่นเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง

นายอัมพรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้การจะนำหลักสูตรที่ปรับปรุงพัฒนาใหม่ไปใช้กับโรงเรียนทั่วไป ต้องทำให้ครบกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ถ้าเสร็จเมื่อไรก็ประกาศใช้ โดยยังไม่ได้ระบุว่าจะให้วันไหน ส่วนมติที่ออกมานั้น ในความหมายของคณะกรรมการ กพฐ. เป็นการประกาศกรอบหลักสูตร เพื่อให้โรงเรียนนำร่องไปทดลองใช้ก่อนเป็นเวลา 1 ปี เมื่อผลการทดลองออกมาแล้ว จึงจะมาดูข้อดี ข้อเสีย ปรับปรุงพัฒนาก่อนจึงจะประกาศใช้กับโรงเรียนทั่วไป อย่างน้อยต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี ตอนนี้หลักสูตรดังกล่าวนำร่องใช้ในพื้นที่นวัตกรรมตามมติเดิมเท่านั้น โรงเรียนทั่วไปยังไม่มีโรงเรียนใดเป็นโรงเรียนนำร่อง กรณีนี้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนและสับสนในทางปฏิบัติ เพราะสุดท้ายแล้วหากจะใช้จริงก็จะต้องประกาศล่วงหน้า 2-3 ปี และต้องเตรียมความพร้อมโดยการอบรมพัฒนาครู พัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาให้เข้าใจ ไม่ใช่ประกาศใช้เลยโดยไม่ต้องมีการพัฒนาครูก่อน รวมถึงต้องมีการเตรียมความพร้อมจัดทำหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนด้วย

“ยืนยันว่าการประกาศใช้หลักสูตรใหม่ต้องเป็นไปตามกระบวนการ คือ มีการนำร่องและนำผลการทดลองนำมาปรับปรุงพัฒนา โดยก่อนประกาศใช้จะต้องมีการสื่อสารกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งครู ผู้บริหาร เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษาทุกคนเข้าใจตรงกัน จึงจะสามารถประกาศใช้ในโรงเรียนทั่วไปได้ ตอนนี้ยังไม่ประกาศใช้แน่นอน ตราบใดที่ผลการนำร่องยังไม่ออก ปรับปรุงยังไม่เสร็จ ก็ยังนำไปใช้ไม่ได้” นายอัมพรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image