แย้งดึงคนนอก 2 ใน 3 เฟ้นอธิการบดี ทปอ.ค้านใช้เกณฑ์สรรหาฯ เดียวทั่วประเทศ

แย้งดึงคนนอก 2 ใน 3 เฟ้นอธิการบดี ทปอ.ค้านใช้เกณฑ์สรรหาฯ เดียวทั่วประเทศ กกอ.จี้รัฐจัดงบพลิกโฉมมหา’ลัยตามสัญญา

ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่ กกอ.ได้จัดทำแนวปฏิบัติธรรมาภิบาลของสถาบันอุดมศึกษา และประกาศเป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้มหาวิทยาลัยดำเนินการ ซึ่งแนวปฏิบัติใหม่นี้ กำหนดจำนวนกรรมการสรรหาอธิการบดี ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่ง และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และเงื่อนไขการได้มาซึ่งอธิการบดี โดยกำหนดให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี และสัดส่วนกรรมการสภา ควรเป็นบุคคลภายนอกไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด เมื่อประกาศแนวปฏิบัติดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ไม่มีปัญหา ขณะที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ส่งหนังสือแย้งว่าไม่ควรใช้กฎระเบียบเดียวกันกับมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ซึ่ง กกอ.รับฟัง และจะไปดูรายละเอียดในภาพรวม เพื่อปรับแก้แนวปฏิบัติดังกล่าวให้เป็นกลาง และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

ศ.ดร.สมคิดกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กกอ.ยังพยายามผลักดันของบสนับสนุนการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ซึ่งที่ผ่านมาแบ่งมหาวิทยาลัยออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มพัฒนาการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น กลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา และกลุ่มผลิตและพัฒนาบุคลากรวิชาชีพและสาขาจำเพาะ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สัญญากับมหาวิทยาลัย ว่าจะจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการพัฒนาดังกล่าว แต่ตั้งแต่มี พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ.2562 ยังไม่เคยได้งบดังกล่าวเลย รวมถึง งบปี 2566 ซึ่งไม่ถูกเขียนไว้ในงบของ อว.

“กกอ.พยายามผลักดันเรื่องดังกล่าว แต่ไม่เคยได้รับงบเลย ทั้งที่ขอไม่มาก เพียง 20-30 ล้านบาทต่อปี แต่ยังถูกตัดออก จึงขอให้สำนักงบประมาณดูรายละเอียดอีกรอบ ว่าจะหางบส่วนใดให้ได้บ้าง เพราะตั้งแต่มี พ.ร.บ.การอุดมศึกษามา 2-3 ปี มหาวิทยาลัยไม่เคยได้รับงบนี้เลย เหมือนอยากให้คนทำงาน แต่ไม่มีเงิน สุดท้ายมหาวิทยาลัยทำงานตามภารกิจเดิมที่มีอยู่ ทั้งที่อยากให้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึง การวิจัยที่มีผลกระทบในระดับนานาชาติ หากไม่ได้งบในส่วนนี้ คิดว่าจะกระทบต่อการพัฒนามหาวิทยาลัย ซึ่งดูได้จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลกเพียงไม่กี่แห่ง ขณะที่ท็อป100 มีอยู่เพียง 2 แห่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อยู่ในลำดับที่ 600 กว่า จึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพ” ศ.ดร.สมคิด กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image