อึ้ง! ผลสอบ ‘บิ๊กเขตฯ’ ผ่านเกือบ 100% ‘สพฐ.’ ยันข้อเขียนเข้ม-เน้นคนทำงาน

อึ้ง!ผลสอบ ‘บิ๊กเขตฯ’ ผ่านเกือบ 100% ‘สพฐ.’ ยันข้อเขียนเข้ม-เน้นคนทำงาน ‘ร.ร.จุฬาภรณ์’ เล็งเฟ้น38ค(2)432อัตรา
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2565 แทนตำแหน่งว่าง 13 อัตรา ผู้มีสิทธิสอบ 513 ราย จัดสอบ ภาค ก ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานในหน้าที่และความสามารถในการวิเคราะห์กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องและการนำไปใช้ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดสอบและประกาศผลการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ผ่านการคัดเลือกภาค ก และมีสิทธิเข้ารับการประเมินภาค ข ความสามารถทางการบริหาร และภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง จำนวน 500 ราย โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะเข้าสอบประเมินภาค ข และภาค ค วิสัยทัศและแนวทางการพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษา วันที่ 22-28 สิงหาคม และสอบสัมภาษณ์ วันที่ 27-28 สิงหาคม ประกาศผลการคัดเลือก วันที่ 5 กันยายน
“การจัดสอบครั้งนี้ มีการตั้งคณะกรรมการจัดสอบขึ้นมา 1 ชุด มีนายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. เป็นประธาน ผู้บริหารองค์กรหลักเป็นกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นเลขานุการ ซึ่งการจัดทำหลักเกณฑ์รวมถึงการออกข้อสอบเป็นไปอย่างรอบคอบ ส่วนที่มีผู้สอบผ่านภาค ก เกือบ 100% นั้น ไม่ใช่ว่าข้อสอบง่าย แต่กำหนดเกณฑ์ข้อเขียนไว้ที่ 50% และผู้เข้าสอบล้วนมีประสบการณ์เป็นรองผู้อำนวยการ สพท. และผู้อำนวยการโรงเรียนมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสอบผ่านเกือบทั้งหมด และการสอบข้อเขียนครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็สอบผ่านข้อเขียนเกือบ 100% ส่วนภาค ข และภาค ค จะประเมินจากวิสัยทัศน์ ประสบการณ์การทำงาน ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จากนั้นจึงนำคะแนนทั้ง 3 ส่วนมารวมกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านการคัดเลือก การบรรจุแต่งตั้งตามตำแหน่งตามตำแหน่งว่าง ส่วนที่เหลือจะขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี การขึ้นบัญชีจะเรียงลำดับจากผู้ได้คะแนนมากไปหาน้อย กรณีผู้ได้รับการคัดเลือกได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้ที่ได้คะแนนภาค ข มากกว่า อยู่ในลำดับที่ดีกว่า หากคะแนนภาค ข เท่ากัน ให้ผู้ที่ได้คะแนนภาค ก ในลำดับที่ดีกว่า หากเท่ากันอีกให้ผู้ที่มีอาวุโสมากกว่า ตามแนวปฏิบัติจัดลำดับอาวุโสตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด อยู่ในลำดับที่ดีกว่า ผู้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งตามเกณฑ์นี้ ต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง โดยจะมีการประเมิน 2 ครั้งในทุก 6 เดือน หากผลการประเมินครั้งแรกไม่ผ่านเกณฑ์ จะให้โอกาสปรับปรุง เพื่อพัฒนาตัวเอง หากผ่านการประเมินก็จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการ สพท.ต่อไป แต่หากไม่ผ่านให้ไปดำรงตำแหน่งเดิมหรือเทียบเท่าก่อนเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการ สพท.” นายอัมพรกล่าว
เลขา กพฐ.กล่าวต่อว่า ในส่วนของ สพฐ.ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพร้อม จัดทำปฏิทิน และตัวชี้วัดการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียน และเตรียมจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย สังกัด สพฐ. ทั้ง 12 แห่ง แห่งละ 36 อัตรา รวม 432 อัตรา สำหรับตัวชี้วัดการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนในครั้งนี้จะเน้นในเรื่องความมีคุณธรรม จริยธรรม เพราะเชื่อว่าหากสามารถคัดเลือกผู้บริหารที่มีคุณธรรมจริยธรรมเข้ามาทำงานได้ จะทำให้การพัฒนาการจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image