เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สวนสุนันทา ให้สัมภาษณ์กรณีที่นางภัทรพร บัวทอง อดีตอาจารย์สังกัดคณะวิทยาการจัดการ ซึ่งได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยซาราโซตา รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และสุดท้ายก็หนีทุนตกให้เป็นภาระการชดใช้ของผู้ค้ำประกัน 3 ราย ว่าจากการตรวจสอบข้อมูลที่ฝ่ายนิติการของ มรภ.สวนสุนันทา ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการฟ้องร้องผู้ค้ำประกันทั้ง 3 รายนี้แต่อย่างใด และยืนยันได้ว่าที่ผ่านมานางภัทรพรไม่เคยมีหนังสือแจ้งว่าจะชดใช้เงิน 6 ล้านบาท และมหาวิทยาลัยก็มิได้เป็นผู้ไปฟ้องศาลล้มละลายให้บุคคลผู้ค้ำประกันทั้ง 3 เป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด
“กรณีของนางภัทรพร จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าเป็นอดีตอาจารย์ของ มรภ.สวนสุนันทาจริง แต่ทุนที่ได้รับ เป็นทุนจากสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ (สรภ.) ในขณะนั้น และนางภัทรพรได้เลือกที่จะไปรับราชการที่สถาบันราชภัฏอุดรธานี หรือ มรภ.อุดรธานี ในปัจจุบัน การทำสัญญาขอรับทุนและการมีผู้ค้ำประกัน 3 ราย ดำเนินการกับ สรภ. ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มิได้ทำกับสวนสุนันทา เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว มหาวิทยาลัยยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล เมื่อสำเร็จการศึกษานางภัทรพรจึงต้องไปใช้ทุนและเป็นอาจารย์ในสังกัดของ มรภ.อุดรธานี” นายฤาเดช กล่าว และว่า กรณีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติให้ลาออกหรือการดำเนินการฟ้องร้องผู้ค้ำประกันทั้ง 3 ราย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสวนสุนันทา เพราะสถานภาพของอาจารย์ภัทรพรในขณะนั้น มิได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ มรภ.สวนสุนันทา ได้สอบถามกับผู้ค้ำประกันหนึ่งในสาม คือนายภากิตต์ ตรีสุกล อาจารย์ มรภ.สวนสุนันทา ก็ได้รับคำชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับ มรภ.สวนสุนันทาแต่ประการใด มหาวิทยาลัยที่ฟ้องร้องผู้ค้ำประกันทั้งสามรายคือ มรภ.อุดรธานี ตนตรวจสอบไปที่ สกอ. ก็ไม่พบเรื่อง เพราะได้โอนงานไปให้ มรภ.อุดรธานีแล้ว
นายฤๅเดชกล่าวด้วยว่า กรณีที่มีข้อสงสัยว่า ในขณะที่อาจารย์ยังมีปัญหาค้างทุนการศึกษา แต่มหาวิทยาลัยกลับอนุมัติให้ลาออกได้นั้น เป็นไปตามระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ.2551 ซึ่งผู้บังคับบัญชาไม่มีอำนาจจะยับยั้งได้ มีอำนาจเต็มที่ที่จะยับยั้งได้ก็แค่ 90 วันเท่านั้นและเป็นคนละส่วนกับการชดใช้ทุน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ มรภ.สวนสุนันทา เมื่อบุคลากรคนใดจะลาออกจากมหาวิทยาลัย จะให้กองคลังตรวจสอบภาระหนี้สินก่อนทุกครั้ง กรณีที่มีหนี้สิน ก็จะใช้ช่วงเวลาในอำนาจ 90 วันนี้เจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อมิให้เกิดผลกระทบกับผู้ค้ำประกัน
