อจ.ค้านไอเดียประยุทธ์ แยกวิชาประวัติศาสตร์

อจ.ค้านไอเดียประยุทธ์ แยกวิชาประวัติศาสตร์

กรณี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมออกประกาศ ศธ.ให้แยกวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกจากกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมาย จากที่ผ่านมา ศธ.มีนโยบาย 8+1 กำหนดโครงสร้างเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ แยกออกมา 1 รายวิชาอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความรักชาติแก่เยาวชน

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ผศ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า การแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมา แทบไม่จำเป็น ปัญหาสำคัญของการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ในระดับประถมและมัธยมศึกษาคือ ขาดหลักสูตรสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ขาดตำราที่มีเนื้อหาถูกต้องทันสมัย หรือเป็นตำราที่สอนให้คนคิดเป็น นอกจากนี้ยังขาดฐานข้อมูลกลางให้นักเรียนเข้าถึงความรู้ถูกต้อง ซึ่งปัญหาสำคัญที่สุดอยู่ที่ 1.เนื้อหาวิชาไม่ทันสมัย ไม่สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการ ควรต้องปรับปรุง 2.ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเชิงความคิดของคนในสังคมปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการคิดวิเคราะห์

“ปัจจุบันคำถามอยู่ที่ว่าคนรุ่นหนึ่งคิดว่า อยากให้คนในสังคมเกิดความรัก สมัครสมานสามัคคี เวลาเราพูดถึงสิ่งที่เรียกว่ารักชาติ คือเซนส์ของชาตินิยม ถ้ามองไปข้างหน้า ต้องเริ่มต้นก่อนว่า หัวใจสำคัญของวิชาประวัติศาสตร์สอนให้คนเข้าใจว่าอดีตเป็นมาอย่างไร จะนำมาใช้ประโยชน์ในปัจจุบันอย่างไรเพื่อมองไปสู่อนาคต ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว เราควรสอนให้นักเรียนใช้ประวัติศาสตร์ในฐานะเป็นทุนทางวัฒนธรรม เป็นฐานความรู้ในการมองโลกกว้างมากขึ้น เพราะประวัติศาสตร์ช่วยทำให้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมไทย ในประเทศเพื่อนบ้านหรือในโลก พูดง่ายๆ คือ วิชาประวัติศาสตร์ควรจะไปไกลเกินกว่าคำว่ารักชาติ แต่ควรสอนว่าเราควรอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างไร เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า” ผศ.พิพัฒน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image