เครือข่ายครูอาชีวะ-ประถมยื่น ภท.ชะลอพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ แก้ให้สมบูรณ์ก่อน

เครือข่ายครูอาชีวะ-ประถม ยื่น ‘ภูมิใจไทย’ ชะลอพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ เพื่อแก้ไขให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อน ด้าน ‘สรอรรถ’ ระบุประเด็นไหนมีปัญหาคงให้ผ่านไม่ได้ เชื่อไม่ทันสมัยประชุมนี้

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 24 มกราคม ที่รัฐสภา นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) ยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ผ่าน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาพรรค ภท. เรื่อง ขอเสนอให้มีการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … มาตรา 71 ซึ่งจากการติดตามพบว่ากรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อยได้สงวนความเห็นไว้แล้ว โดยมีเนื้อหาที่ทางเครือข่ายขอสนับสนุนคือ ม.71 ที่ระบุว่า “ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะดำเนินการหรือจัดให้มีสถานศึกษาอาชีวศึกษา หรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตาม ม.8 (6) (ก) (7) อย่างแพร่หลาย รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือให้ภาคเอกชน หรือองค์กรที่มิใช่หน่วยงานของรัฐดำเนินการ หรือจัดให้มีสถานศึกษาดังกล่าวอย่างทั่วถึง หรือให้มีส่วนร่วมกับสถานศึกษาดังกล่าว ในการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะมีความรู้ ความชำนาญ สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

และ “การจัดการศึกษาตามวรรคหนึ่ง ต้องมุ่งเน้นให้เกิดทักษะ และความชำนาญในการประกอบอาชีพ และต้องจัดให้มีอุปกรณ์ในการฝึกทักษะ และฝีมืออย่างพอเพียงหรือสถานศึกษาที่จัดการศึกษา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตาม ม.8 (6) (ก) (7) ต้องมีความเป็นอิสระโดยการบริหารสถานศึกษาดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย”

นายเศรษฐศิษฏ์กล่าวต่อว่า ทางเครือข่ายจึงขอความอนุเคราะห์พรรคภูมิใจไทยได้ให้การสนับสนุนในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในมาตราดังกล่าว เพื่อให้อาชีวศึกษามีบรรจุในมาตราดังกล่าว เพื่อจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งของประเทศต่อไป

Advertisement

จากนั้น ชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรม ยื่นหนังสือถึงพรรค ภท.เช่นกัน นายสุนทรกล่าวว่า วันนี้ครูต่างพร้อมใจกันสวมใส่ชุดดำเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศด้วยการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ เพราะมีหลายประเด็นที่แตกต่างจาก พ.ร.บ.การศึกษา ปี 2542 ดังนั้น หากผ่านออกไปบังคับใช้จะก่อให้เกิดความไม่สงบสุข ขาดความสามัคคี เพราะในร่างดังกล่าวมีการระบุว่า “ให้ใครก็ได้สามารถจัดการศึกษาได้” ทำให้วิชาชีพครูไม่ใช่วิชาชีพควบคุม ใครๆ ก็สามารถเป็นครูได้

นายสุนทรกล่าวว่า ประเทศไทยจะขาดครูที่มีคุณภาพมาตรฐาน ไม่ต่างอะไรกับการเอาใครก็ได้ไปผ่าตัดคนป่วยซึ่งเป็นอันตราย ทำให้นักเรียนไม่ได้เรียนรู้ในวิชาชีพที่ตนถนัด นอกจากนี้ ใน ม.8 ยังบล็อกนักเรียนเป็นชั้นๆ ไม่ส่งเสริมผู้เรียนตามยุคใหม่ และโรงเรียนขนาดเล็กตาม ม.14(9) จะถูกยุบ เด็กต้องอพยพไปเรียนที่อื่นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ตลอดจนรัฐไม่จัดการศึกษาตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วให้คณะบุคคลจัดการศึกษาได้ ซึ่งเราเป็นห่วงมาก เพราะถ้าต่างคนต่างจัด ใครก็จัดได้ จะส่งผลถึงความแตกต่างของบุคคล และนำไปสู่บ่อนทำลายความมั่นคงสงบสุขของประเทศชาติ สถาบันของชาติ นอกจากนี้ ยังมีในระบบการบริหารยังมีการรวมศูนย์อำนาจ ไม่มีผู้แทนครูเข้ามาตามระบบประชาธิปไตย

นายสุนทรกล่าวต่อว่า ดังนั้น ขอให้มีการชะลอไว้ก่อนแล้วให้มาปรับแก้ร่าง พ.ร.บ. โดยยืนบนฐานของ พ.ร.บ.การศึกษา ปี 2542 โดยปรับเพียงจุดบอดที่ไม่ดี ให้มันดีขึ้น แล้วพี่น้องจะเกิดความสุขทั้งประเทศ ประชาชนจะอยู่ได้ทั้งประเทศ

Advertisement

ด้านนายสรอรรถกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการศึกษามาตลอด และทราบว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีปัญหา มีประเด็นถกเถียงมากมาย ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจะรับเรื่องและนำไปหารือเพื่อหาแนวทางตอบสนองความต้องการของต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้อเรียกร้องอาชีวศึกษานั้นเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่เป็นสาระสำคัญ เพราะเป็นการเพิ่มเพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากใน ม.71 ตกหล่นคำว่า “อาชีวะ” หากเพิ่มคำนี้เข้าไปก็คิดว่าน่าจะครบ

นายสรอรรถกล่าวว่า ยืนยันว่ากฎหมายที่จะผ่านสภาต้องได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯฉบับนี้มีข้อท้วงติงข้อเรียกร้องจากหลายหน่วยงานการศึกษาทุกระดับ จะเห็นว่ามีข้อบกพร่องอยู่ในกฎหมายค่อนข้างเยอะ แต่การทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรจำเป็นจะต้องเคารพความคิดเห็นของคณะ กมธ. เมื่อมีการเสนอเข้ามาสิ่งที่เราจะพิจารณาคือความถูกต้อง ประเด็นไหนที่มีปัญหา ไม่มีความเป็นธรรม หรือไม่เสมอภาคในทางปฏิบัติมีความเหลื่อมล้ำ เราคงให้มาตรานั้นผ่านไปไม่ได้

“ดูแล้วร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่น่าจะพิจารณาได้ทัน ทำให้ร่างกฎหมายคงจะพักไปโดยปริยาย แต่น่าจะมีการเสนอเข้ามาใหม่ ซึ่งทีมงานของภูมิใจไทยมีคนมีความรู้ทางด้านการศึกษามากมาย คงมีประเด็นที่จะนำไปสู่การแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาฯให้เกิดความสมบูรณ์ และอาจจะเสนอเข้ามาใหม่ในนามของพรรคภูมิใจไทยในโอกาสต่อไป” นายสรอรรถกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image