‘ตรีนุช’ สั่ง สพฐ. วางมาตรการป้องกันยาเสพติดในโรงเรียน หลังพบปัญหากัญชา-บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาพุ่ง
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณี นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 14 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.ลพบุรี ถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับให้สูบกัญชาภายในห้องน้ำของโรงเรียน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนทำให้หมดสติ และมีอาการหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูแลช่วยเหลือนักเรียนรายดังกล่าวแล้ว ซึ่งในส่วนของนักเรียนชั้น ม.1 นักเรียนแจ้งความประสงค์ว่าต้องการย้ายไปเรียน ที่โรงเรียนอื่น ศธ.จึงประสานช่วยเหลือย้ายนักเรียนตามคำขอ เพื่อให้นักเรียนเกิดความสบายใจ ซึ่งระหว่างที่รอการย้ายโรงเรียน ก็ให้เรียนออนไลน์ที่บ้านไปก่อน ส่วนรุ่นพี่ชั้น ม.3 ทางโรงเรียนได้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติแล้ว พร้อมทั้งให้กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุธ (สธ.) สร้างความรู้ ความเข้าใจถึงโทษของสารเสพติดกับนักเรียนกลุ่มนี้แล้ว ในส่วนของครู ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ครูได้สอดส่องดูแลนักเรียนหรือไม่ หากพบว่าครูละเลยไม่ดูแลนักเรียน ก็จะลงโทษวินัย ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 1 สัปดาห์
น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ศธ.ให้ความสำคัญเรื่องสถานศึกษาปลอดภัยอย่างมาก แต่ต้องยอมรับว่าในสังคมปัจจุบันเด็กเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้เร็วและง่ายขึ้น และปัจจุบัน ศธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกัญชา บุหรี่ไฟฟ้า และสารเสพติดมาจำนวนมาก ตนจึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับกรมสุขภาพจิต จัดทำมาตรการกลางในการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางให้สถานศึกษาในสังกัดนำไปปฏิบัติต่อไป เพราะตนมองว่านอกจากให้ความรู้ความเข้าใจให้นักเรียนตระหนักผลเสียของยาเสพติด ไม่เพียงพอแล้ว แต่ ศธ.จะต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมหามาตรการมาสกัดปัญหายาเสพติดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
“ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชุมชน และสังคม ซึ่งวันนี้ปัญหาดังกล่าว เข้ามาถึงในสถานศึกษาแล้ว จึงถือเป็นงานที่ท้าทายของครู เพราะนอกจาก ครูจะให้ความรู้ความเข้าใจ ผลดีผลเสียของยาเสพติดแล้ว จะต้องเฝ้าระวัง และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ร่วมมือกับชุมชนวางมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก” น.ส.ตรีนุชกล่าว
