มหากาพย์ย้ายอุเทนฯ ‘ศิษย์เก่า-ใหม่’ ประท้วงคำสั่งศาล ยันไม่ออกนอกพื้นที่ ขู่ปิดถนนพญาไท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สมาคมผู้ปกครองและครูอุเทนถวาย สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย คณะพิทักษ์ศิษย์เพื่อการศึกษาโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย (คพศ.) และนักศึกษาปัจจุบัน กว่า 500 คน ยื่นหนังสือคัดค้านการย้ายวิทยาเขตอุเทนถวาย ถึง รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ รักษาการอธิการบดี มทร.ตะวันออก และปฏิบัติหน้าที่นายกสภา มทร.ตะวันออก พร้อมทั้งร่วมแสดงเจตจำนงค์ไม่เห็นด้วย และไม่ขอย้ายวิทยาเขตอุเทนถวายออกจากพื้นที่ สาเหตุที่นักศึกษามาชุมนุมนั้น สืบเนื่องจาก ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ตัดสินให้ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กว่า 100 นาย เข้ามาดูแลความเรียบร้อยภายในมหาวิทยาลัย และคอยอำนวยความสะดวกกิจกรรมที่นักศึกษาจัดขึ้น
ต่อมาเวลา 11.13 น. นักศึกษากว่า 500 คน รวมตัวเดินขบวนหน้าฟุตบาทมหาวิทยาลัย พร้อมกับชูป้ายข้อความ เช่น “พระราชทานที่ดินมาให้เพื่อเป็นโรงเรียนช่างก่อสร้างแห่งแรกของประเทศไทย” , “ที่ดินแห่งนี้มีไว้เพื่อการศึกษา ไม่ใช่เพื่อแสวงหากำไร” , “อยู่กันมาเกือบจะ 100 ปี ให้เราย้ายไปไหน” “เราจะไม่ออกจากบ้านเลขที่ 225 ” เป็นต้น ทั้งนี้ นักศึกษา มองว่า วิทยาเขตอุเทนถวายได้ก่อตั้งมา 89 ปี มีศิษย์เก่าอยู่มากมาย ที่ประสบความสำเร็จในการงาน และศิษย์ปัจจุบัน ที่กำลังศึกษาอยู่จะเป็นปัญหาในระบบการศึกษาของนักศึกษาปัจจุบัน พร้อมทั้งตั้งคำถามด้วยว่าสถานที่แห่งนี้ “ควรเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการค้าพาณิชย์”
นายกฤษฏิธัชย์ ณัฐวราณัญต์ ผู้ประสานงาน คพศ. กล่าวว่า วันนี้เรามายื่นหนังสือคัดค้านไม่ประสงค์ที่จะย้าย มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย อีกทั้ง ทราบว่าการประชุมสภา มทร.ตะวันออกวันนี้ มีวาระการประชุมเกี่ยวกับการย้ายที่ตั้ง วิทยาเขตอุเทนถวาย ออกจากที่ตั้งในปัจจุบัน ที่ผ่านมา เราได้จัดกิจกรรมเสวนากรอบแนวทางและทิศทางความต้องการของประชาคมอุเทนถวาย เรื่อง ที่ดินอุเทนถวาย และมีการลงประชามติ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ประสงค์ย้ายวิทยาเขตอุเทนถวาย ออกจากที่ตั้งปัจจุบันโดยเด็ดขาด และมีความประสงค์ให้มหาวิทยาลัย ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนตามปกติ อีกทั้งกำหนดแนวนโยบายส่งเสริมและพัฒนามหาวิทยาลัยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาคม มีข้อสรุป ดังนี้ 1.กลุ่มนักศึกษาปัจจุบัน ไม่ย้าย ร้อยละ 98.70 , ย้าย ร้อยละ 1.30 2.กลุ่มศิษย์เก่า ไม่ย้าย ร้อยละ 98.7 , ย้าย ร้อยละ 1.3 และ 3.กลุ่มคณาจารย์และบุคลากรสายสนับสนุน ไม่ย้าย ร้อยละ 25.9 , ย้ายร้อยละ 35.2 และอื่น ๆ 39.9 ซึ่งจากการสำรวจความต้องการของประชาคมอุเทนถวาย มีความเห็น “ไม่ย้าย” คิดเป็นร้อยละ 74.43
นายกฤษฏิธัชย์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเรียกร้องให้รักษาการอธิการบดี มทร.ตะวันออก หรือปฏิบัติหน้าที่นายกสภามทร.ตะวันออก มารับหนังสือคัดค้านที่ วิทยาเขตอุเทนถวาย สาเหตุที่จะต้องให้มารับหนังสือที่วิทยาเขตอุเทนถวาย เพราะทราบว่าในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมสภา มทร.ตะวันออก ที่วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ ต่อมาได้ย้ายการประชุมไปที่วิทยาเขตบางพระ จ.ชลบุรี และท้ายสุดตัดสินใจประชุมออนไลน์แทน ซึ่งทำให้นักศึกษาวิทยาเขตอุเทนถวาย สับสนและรู้สึกถึงความไม่แน่นอน จึงเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมารับหนังสือคัดค้าน ที่วิทยาเขตอุเทนถวาย
“เดิมเราจะมายื่นเอกสารด้วยความสงบเรียบร้อย แต่ท่านบีบบังคับเราให้เรามาทำการชุมนุมที่หน้าวิทยาเขตอุเทนถวาย เราเรียกร้องให้อธิการบดีหรือหรือนายกสภา มทร.ตะวันออก มารับหนังสือคัดค้าน ภายในเวลา 14.00 น. ถ้าไม่มา เราจะยกระดับการชุมนุมขึ้นโดยจะปิดถนนพญาไททั้งหมด ถ้ายังไม่มาจะยกระดับเพิ่มขึ้นอีก เช่น จะปักหลักอยู่มหาวิทยาลัย จนกว่าผู้บริหารจะเดินทาวมารับหนังสือคัดค้าน และรับฟังปัญหาจากเรา” นายกฤษฏิธัชย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ กรณีการย้ายอุเทนฯ ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2556 ภายหลัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอ จะขอพื้นที่คืน โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เช่าพื้นที่เป็นเวลา 68 ปี หมดสัญญา เมื่อปี 2546ซึ่งจุฬาลงกรณ์ได้เริ่มเจรจาขอคืนพื้นที่มาตั้งแต่ ปี 2518 เพื่อจะนำพื้นที่กว่า 20 ไร่ 3 งาน ไปขยายเขตพื้นที่การศึกษาตามโครงการพัฒนาของมหาวิทยาลัย 10
