บันทึกการเรียนคณิตศาสตร์ที่นำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดย พัชณีย์ คำหนัก

ในบริบทของการปฏิรูปการศึกษา รัฐบาล คสช.ได้จัดทำยุทธศาสตร์การศึกษาและกลยุทธ์การแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาไทยที่ผู้เรียนยังคิดวิเคราะห์ไม่เป็นไปจนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เด็กไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม กลยุทธ์นั้นเริ่มตั้งแต่การสร้างจุดเปลี่ยนที่ห้องเรียนไปจนถึงการปรับโครงสร้างการบริหารงานในกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงการปรับปรุงระบบการประกันคุณภาพภายในกับภายนอกที่เน้นพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายของรัฐ

อย่างไรก็ตาม โลกแห่งความเป็นจริงที่พ่อแม่ผู้ปกครองประสบยังไม่มีอะไรปรับเปลี่ยนไปตามกระแสการปฏิรูประดับชาติ กล่าวคือ วิธีการเรียนการสอนเดินตามแนวทางแข่งขัน เรียนเพื่อสอบ วัดผลที่คะแนน ซึ่งได้นำไปสู่การแบ่งแยกเด็ก ระหว่างเด็กเรียนเก่งกับเด็กเรียนอ่อน เด็กรวยกับเด็กจน ด้วยระบบการกวดวิชาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ปัญหาความเหลื่อมล้ำก็จะยังคงอยู่และไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่โรงเรียนบอกว่าต้องการฝึกฝนให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น นำข้อสอบระดับชาติและระดับโลก (PISA) มาเป็นแนวทางพัฒนา

บทความนี้ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ในระดับจุลภาค ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วิชาคณิตศาสตร์ที่ต้องทำหน้าที่สอนการบ้าน ติวข้อสอบ ดูแลลูกหลังเลิกเรียน ซึ่งก็พบว่าครรลองของวิชานี้ไม่ได้แตกต่างจากวิชาอื่นนัก ดังกรณีศึกษาต่อไปนี้

กรณีศึกษาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ต้องการฝึกฝนนักเรียนให้สามารถคิดเลขไวและแข่งขันกับโรงเรียนอื่นได้ เมื่อเข้าไปดูแบบฝึกหัดและข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ประจำปี 2559 ที่ทำให้นักเรียนสอบตกจำนวนมาก พบว่า 1) แนวข้อสอบไม่ระบุขอบเขตของเนื้อหาชัดเจน ทำให้การเตรียมตัวยากลำบาก ผู้ปกครองต้องใช้เวลามากในการติวลูก เมื่อเทียบกับวิชาอื่นที่ไม่มีปัญหานี้ 2) การเตรียมตัวทำแบบฝึกหัดก่อนสอบมีเนื้อหาที่มากและยากเกินกว่าที่นักเรียนป.4 จะเข้าใจ 3) ผลลัพธ์คือ นักเรียนสอบตกจำนวนมากที่ไม่ปกติและไม่ควรเกิดขึ้น ด้วยสภาพนี้ ทำให้เกิดสมมติฐาน 2 ประการคือ 1) ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพ่อแม่ผู้ปกครองที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาสอนการบ้าน ติวแบบฝึกหัดให้ลูก 2) การสอบตกบวกกับการเรียนการสอนที่รวบรัดกับเนื้อหาที่ยาก ทางออกเดียวนั้นคือ ไปกวดวิชาใช่หรือไม่

Advertisement

เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์สำหรับชั้น ป.4 ได้แก่

– พื้นฐานพีชคณิต ดังตัวอย่างแบบฝึกหัดด้านล่างนี้

19

Advertisement

20

– การถอดสแควร์รูท อนุกรม เลขยกกำลัง สมการ ทักษะการคิดคำนวณ คูณหารด้วยจำนวนมากๆ การแก้โจทย์ปัญหาที่ซับซ้อนด้วยการใช้ภาษาที่ยุ่งยากสร้างความสับสนหรือหลอกล่อผู้เรียนได้ การแปลงหน่วยนับให้เหมือนกัน เช่น เมตรเป็นเซนติเมตร บาทเป็นสตางค์ ชั่วโมงเป็นนาที ที่มีความยากในแง่ที่ผู้ปกครองต้องช่วยสอน และทำโจทย์ข้อหนึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าที่ลูกจะเข้าใจ ท้ายสุดยังสอบตก 2 ครั้ง ทั้งสอบกลางภาคและปลายภาคการเรียนที่ 1 ดังภาพด้านล่างนี้

21

22

การประเมินว่าข้อสอบยากนั้นสามารถวัดได้อีกวิธีหนึ่ง คือ การที่มีนักเรียนจำนวนหนึ่งเรียนกวดวิชาจากสถาบันอื่น แล้วยังสอบตก หากไม่กวดวิชาก็อาจจะประสบปัญหามากขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยภายในของเด็กที่ยังไม่เก่งพอ ยังมีปัจจัยอื่นสมทบเข้ามาอีก คือ ครูผู้สอนที่สอนแบบรวบรัด ท่องจำ ไม่สามารถถ่ายทอดเทคนิคการคิดเลขได้อย่างเข้าใจ ต่างจากการเรียนวิชาดนตรีของภาคเอกชนที่มีการสอนแบบค่อยเป็นค่อยไปและเต็มไปด้วยเทคนิครูปแบบแพรวพราว

ด้วยเหตุนี้ การตกอยู่ภายใต้กระแสการแข่งขัน การกวดวิชาที่เป็นการแสวงหาประโยชน์เฉพาะหน้าของครูอาจารย์ การเรียนเพื่อสอบไม่ได้เพื่อต้องการเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กอย่างจริงจัง และการวัดผลด้วยคะแนนเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม ตัดสินคุณค่าของคนด้วยข้อสอบ ก่อให้เกิดความเครียด การดิ้นรน การถูกยัดเยียด การแย่งชิงเวลาว่างของเด็กเพราะการสอนในชั้นเรียนที่อ่อนแอ เปิดช่องโหว่ให้มีการแสวงหาประโยชน์ในที่สุด

ประเด็นถัดมา คือ การประกันคุณภาพการศึกษาภายในและภายนอกมีประเด็นตัวชี้วัดคุณภาพการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความไม่ยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำมากน้อยเพียงใด มีตัวชี้วัดอะไรที่สะท้อนถึงความอ่อนแอในกระบวนการเรียนการสอน รวมถึงความสุขของผู้เรียนกับผู้ปกครอง ในการประเมินวัดผลความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียนนั้นกลับมีกระบวนการที่ยากลำบากสำหรับผู้ปกครอง การหา ผลประโยชน์ของสถาบันกวดวิชา ที่น่าเป็นห่วงว่าการปฏิรูปการศึกษาจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้จริงหรือ

การระบุปัญหาความเหลื่อมล้ำจากการบันทึกการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในมุมมองของผู้ปกครองนี้ ต้องการเสาะหาร่องรอยของคุณภาพการศึกษาที่ผู้เรียนควรคิดวิเคราะห์เป็นและสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของรัฐว่าแก้ไขปัญหาความไม่ยุติธรรมในการเข้าถึงคุณภาพการศึกษาได้จริงเพียงใด หวังว่าประเด็นที่หยิบยกมาจะเป็นประโยชน์ในการถกเถียงต่อไป ทั้งนี้ในฐานะผู้ปกครองไม่ต้องการให้ลูกเรียนเพื่อสอบและควักเงินให้กับสถาบันกวดวิชา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image