‘ก.ค.ศ.’ รับลูกรื้อระบบสอบครูผู้ช่วย ชงตั้ง ‘ศูนย์ออกข้อสอบ’ เน้นมาตรฐานโปร่งใส

‘ก.ค.ศ.’ รับลูกรื้อระบบสอบครูผู้ช่วย ชงตั้ง ‘ศูนย์ออกข้อสอบ’ เน้นมาตรฐานโปร่งใส โอดเคยเสนอของบออกข้อสอบ แต่ถูกเมิน ชี้หากรัฐบาลใหม่มีนโยบายชัดเจน พร้อมเดินหน้าทันที

นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เสนอปรับระบบการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นหน่วยงานกลางจัดสอบภาค ก และภาค ข ปีละ 2 ครั้ง เช่นเดียวกับการสอบรับข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หากโรงเรียนใด มีอัตราว่าง ประกาศรับ ก็นำคะแนนไปยื่น เพื่อสอบภาค ค ได้ทันที นั้น ส่วนตัวตนเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าว และที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ค.ศ.เคยเสนอของบประมาณเพื่อจัดตั้งศูนย์จัดสอบ ของสำนักงาน ก.ค.ศ.แล้ว แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจากทางสำนักงบประมาณ

“ก.ค.ศ.เองก็เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และกว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามของบประมาณ เพื่อจัดทำศูนย์ข้อสอบของ ก.ค.ศ. แต่ไม่ได้รับงบ ซึ่งผมเอง ยืนยันเรื่องการจัดทำข้อสอบกลาง เพื่อให้การจัดสอบมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และให้โรงเรียนที่ต้องการใช้อัตราครู เปิดรับสมัครเพื่อสอบภาค ค ด้วยตัวเอง หากทำเช่นนี้จะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความโปร่งใส เป็นธรรม การออกข้อสอบที่ได้มาตรฐาน รวมถึงจะแก้ปัญหาขาดแคลนครูในอนาคต เพราะผู้เข้าสอบสามารถเลือกสมัครสอบภาค ค ในโรงเรียนที่ต้องการได้ ช่วยลดปัญหาการโยกย้าย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าข้อเสนอนี้ เป็นแนวทางที่ควรทำอย่างยิ่ง สำนักงาน ก.ค.ศ.อยากทำระบบนี้มานานแล้ว แต่ปัญหาเรื่องงบประมาณ และต่อมามีข้อเสนอเรื่องการกระจายอำนาจไปให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ ดำเนินการจัดสอบอีก จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้” นายประวิตกล่าว

เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.เคยยื่นของบไปประมาณ 60 ล้านบาท ในการพัฒนาข้อสอบให้ได้มาตรฐาน และใช้สำหรับดำเนินการจัดสอบ ซึ่งถือว่า ไม่ได้มากแต่ก็ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ และจะถูกตัดทุกครั้งที่ขอไป โดย ก.ค.ศ.ได้รับงบประมาณ ปีละประมาณ 200 ล้านบาท ที่ผ่านมา ตนพยายามขยับของบเพิ่มปีละ 15% หรือประมาณปีละกว่า 20 ล้านบาท และที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ค.ศ.ก็ทุ่มงบไปกับการปรับระบบการประเมิน ขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ทำให้งบที่ขอเพิ่มเพื่อตั้งศูนย์จัดสอบถูกตัดไปโดยปริยาย ซึ่งหากรัฐบาลใหม่เข้ามา และมีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้ ตนก็พร้อมดำเนินการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image