ที่มา | มติชน |
---|---|
เผยแพร่ |
นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงานศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ผู้ออกแบบพระโกศจันทน์ กล่าวว่า สำนักช่างสิบหมู่ได้รับมอบหมายจากนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ให้รับผิดชอบในส่วนของพระโกศจันทน์ พระโกศทองคำลงยา งานศิลปกรรมต่างๆ ราชรถรางปืน พระที่นั่งราเชนทรยานน้อย การซ่อมพระราชยานต่างๆ เป็นต้น โดยตนดูแลการออกแบบพระโกศจันทน์ หีบพระบรมศพจันทน์ ออกแบบผ้าม่าน ออกแบบลายท่อนฟืนไม้จันทน์ ลายช่อไม้จันทน์ แกะลายที่ยอดพระจิตกาธานให้เป็นพรหมพักตร์ นอกจากนี้ ยังร่วมกับนายช่างอีก 2 คนออกแบบพระโกศทองคำลงยา ที่ใช้บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายสมชายกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนของพระโกศทองคำลงยามีทั้งหมด 3 แบบ ออกแบบโดยนายช่าง 3 คน พระโกศทองคำลงยาที่เป็นพระโกศหลักจะเก็บอยู่ที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ตนจะออกแบบโดยใช้แนวคิดเดียวกับการออกแบบพระโกศจันทน์ คือพระนารายณ์ทรงครุฑ เนื่องจากหลักการในการสร้างพระเมรุมาศครั้งนี้ ยึดหลักการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านว่าทรงเป็นพระนารายณ์อวตาร แม้กระทั่งฉากบังเพลิงก็เป็นนารายณ์อวตาร 10 ปาง โดยพระฉากแต่ละคู่จะเขียนภาพพระนารายณ์อวตาร 2 ปาง
“แบบพระโกศทองคำลงยาที่ผมออกแบบ ที่องค์พระโกศมีบัวกลีบขนุนหุ้มอยู่โดยรอบทั้ง 8 เหลี่ยม แต่ละลายของบัวกลีบขนุนจะมีไส้กลางเป็นเทพยดาพนมมือ ส่วนด้านล่างต่ำลงจะมีครุฑยุดนาคหน้าอัดยืนรายอยู่ตามท้องไม้ที่ฐาน คำว่าท้องไม้ตามลักษณะของสถาปัตย์ฐานบัว ตรงระหว่างพื้นที่ว่างที่จะต่อไปอีกฐานหนึ่ง จะเป็นฐานบัว หรือฐานอะไรก็แล้วแต่ ช่วงที่ว่างๆ เรียกว่าท้องไม้ โดยปกติเมื่อปิดทึบก็จะโล่ง ทางช่างจะเอาเทวดาหรือครุฑมาผนึกไว้ ผมจะใช้ครุฑยุดนาคหน้าอัด ส่วนรูปทรงของพระโกศทองคำลงยาที่ผมออกแบบจะมีรูปทรงเล็กกว่าพระโกศทองคำลงยาที่เป็นพระโกศหลัก ส่วนสี จะลงยาสีขาว ชมพู เขียว เหลือง เป็นหลัก แซมด้วยสีน้ำเงิน โดยสีเหลือง-ขาว สื่อถึงวันพระราชสมภพของในหลวง รัชกาลที่ 9 คือวันจันทร์ ส่วนสีเขียว เป็นสีของเดชของวันพระราชสมภพ สีชมพู สื่อถึงความเป็นมงคล อายุ และสีน้ำเงิน สื่อถึงน้ำและสีของสถาบันพระมหากษัติย์ โดยแบบที่ผมออกแบบสื่อถึงโครงการพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เกี่ยวกับน้ำ” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวอีกว่า พระโกศทองคำลงยา ประกอบด้วยพระโกศทองคำและพระลองในยอดปริกที่อยู่ด้านใน พระลองในทำมาจากศิลาอ่อนเรียกว่า “พระลองในศิลาอ่อนทรงพระบรมอัฐิ” วิธีการทำจะนำหินอ่อนมากลึง คว้านไส้ให้กลวงเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิได้ ส่วนด้านนอกที่เป็นพระโกศนั้นจะเป็นทองคำสลักลงยา ความสูงของพระโกศทองคำลงยายังไม่ได้ข้อสรุป โดยปกติจะสร้างพระโกศทองคำลงยาองค์ใหญ่เพียงองค์เดียวที่ถือว่าเป็นพระโกศหลัก แต่ครั้งนี้จะมีพระโกศทองคำลงยา 3 แบบ
“นอกจากนี้ ผมมีหน้าที่ออกแบบม่านพระเมรุมาศและขยายลายเท่าจริง แต่เนื่องจากยังไม่ได้ขนาดม่าน เลยยังไม่ได้ออกแบบผ้าม่านจะใช้ประดับที่พระเมรุหลักหลังใหญ่ นอกจากนี้ จะใช้ที่พระเมรุที่เป็นบริวารที่เป็นยอดบุษบก ทั้งยอดใหญ่ตรงกลางที่เป็นที่เผาพระบรมศพ ส่วนยอดย่อยๆ ที่เป็นที่ตั้งของซ่าง 4 องค์ก็ใช้ม่าน รวมถึงหอเปลื้องด้วย โดยผมจะออกแบบลายต่างกันไป หลักๆ จะเป็นลายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นลายแสดงเกียรติยศสูงสุด ถ้าได้ขนาดผ้าม่านมาแล้วก็จะใช้เวลาออกแบบไม่นาน” นายสมชายกล่าว