ศธ.เร่งแจงสาระกม.ใหม่”กยศ.” ให้”ครู-ผู้กู้-สถานศึกษา”เข้าใจ

เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2560 นั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับ ศธ. ตามกฎหมายใหม่ ได้มีการยกเลิกคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่ 1 และคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่ 2 โดยให้มีคณะอนุกรรมการกำกับและประเมินสถานศึกษาที่เข้าร่วมดำเนินงานกับกองทุน มีปลัด ศธ.เป็นประธาน มีเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 คน เป็นกรรมการ ซึ่งอนุกรรมการ ชุดนี้ จะทำหน้าที่กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ดูแลสถานศึกษา พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะแก่คณะกรรมการบริหารกองทุนกยศ.ซึ่งจะทำให้ ศธ.มีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดมาตรฐานในการเลือกสถานศึกษา กำหนดมาตรฐานในการดูแลเด็กที่กู้ยืม ตลอดจนสาขาวิชาที่จะให้กู้ยืม เป็นต้น

นายชัยพฤกษ์กล่าวต่อว่า พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 จะช่วยให้กยศ.สามารถขอข้อมูลหน่วยงานต่างๆ เพื่อติดตามทวงหนี้ โดยเฉพาะผู้กู้ยืมที่ไม่ชำระหนี้ได้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ค้างชำระหนี้ กยศ.ประมาณ 1 ล้านคน ตลอดจนกรมสรรพากร สามารถแจ้งให้นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชา หักเงินเดือนของผู้กู้เพื่อชำระหนี้ได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้การชำระหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีเงินหมุนเวียนกลับเข้ากองทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การกู้ยืมตามกฎหมายฉบับใหม่นี้ผู้กู้จะต้องเซ็นยินยอมให้หักเงินชำระหนี้

“จากนี้ ศธ.จะเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ให้แก่ครู อาจารย์ สถานศึกษา ตลอดจนนิสิต นักศึกษา และนักเรียน ได้รู้ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ทั้งเรื่องการกู้ยืมเงิน กยศ.และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ว่าควรปฏิบัติตนก่อน ระหว่าง และหลังกู้ยืมเรียนอย่างไรบ้าง โดยจะเน้นเป็นพิเศษ เรื่องความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์” นายชัยพฤกษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image