เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2559 จากนั้น ได้มีการประชุมร่วม 5 ศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีกรอบแนวทางดำเนินการ ได้แก่ 1.การส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา 2.การส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแผ่หลักธรรมที่ถูกต้อง 3.การอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา 4.การส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และ5.การสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา และมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแผ่หลักธรรมที่ถูกต้อง ยุทธศาสตร์ที่ 3 อุปถัมภ์ศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 4 คุ้มครองป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และยุทธศาสตร์ที่ 6 การสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา จากกรอบแนวทางทั้ง 5 แนวทาง และ 6 ยุทธศาสตร์ จะตอบสนองคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
นายพนม กล่าวต่อว่า โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 49/2559 ปีงบประมาณ 2560-2564 เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ในแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ดังกล่าว ภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องมีการขับเคลื่อน คือ การประชุมศาสนิกสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ระหว่างผู้นำแต่ละศาสนาโดยสำนักงาน พศ. จะร่วมกับกรมการศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบูรณาการความร่วมมือร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
